พ่อพิการขาขาด ประกาศหาคนอุปการะลูกสาววัย 12 หลังถูกจับรับของโจร
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด
พ่อพิการขาขาด 2 ข้าง เขียนป้ายประกาศหาคนช่วยอุปการะลูกสาววัย 12 ปี แทนตนเอง เนื่องจากกำลังจะถูกจำคุกในข้อหารับซื้อของโจร ทั้งที่ไม่ทราบว่าเป็นของถูกขโมยมา
วันนี้ (23 กันยายน 2557) ผู้สื่อข่าวข่าวสด ได้รับแจ้งว่า มีชายพิการประกาศหาผู้ใจบุญช่วยอุปการะดูแลลูกสาววัย 12 ขวบ เนื่องจากตนเองจะต้องถูกจำคุกเพราะรับซื้อของโจร จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่อู่ซ่อมรถ ต.เอกราช อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง พบนายเฉลียว ซ่อนกลิ่น อายุ 58 ปี กำลังนั่งซ่อมรถที่ลูกค้าได้เอามาให้ซ่อม โดยมี ด.ญ.จุฑามณี ซ่อนกลิ่น อายุ 12 ปี ลูกสาวคอยช่วยหยิบของอยู่ใกล้ ๆ เนื่องจากนายเฉลียวพิการขาขาดทั้ง 2 ข้าง โดยที่หน้าอู่ซ่อมรถพบแผ่นเขียนข้อความว่า ลุงเหลียวคนพิการขาขาดหมดทั้ง 2 ข้าง อาชีพปะยางรถเครื่องรถจักรยาน ถูกฟ้องศาลวันที่ 7 ตุลาคม 2557 ลุงรู้เท่าไม่ถึงการณ์รับซื้อของโจรลุงไม่มีเงินประกัน ลุงอยู่กับลูก 2 คน ลูกลุงเป็นผู้หญิงอยู่ชั้น ป.6 ลุงขอกราบเท้าถึงผู้ใจบุญช่วยเป็นค่าบ้านที่เช่าอยู่ทุกวัน กว่าลุงจะกลับคงจะนาน จึงวิงวอนมา ณ ที่นี้
จากการสอบถามนายเฉลียว เล่าว่า ตนพิการมาตั้งแต่ปี 2535 เนื่องจากขับรถรถบรรทุกหลับในชนเสาไฟฟ้า แต่ก็ประกอบอาชีพรับซ่อมรถมาโดยตลอด จนกระทั่งภรรยาได้คลอดลูกเมื่อ 12 ปีก่อน หลังจากภรรยาตนคลอดลูกก็หนีไป ตนก็เลี้ยงลูกคนเดียวมาตลอด และที่ตนต้องประกาศหาคนที่มีใจบุญเข้ามาอุปการะเลี้ยงดูลูกสาวตน ก็เนื่องจากตนไม่มีใครแล้ว เพราะวันที่ 7 ตุลาคม 2557 ทางอัยการจังหวัดอ่างทอง ก็จะพิจารณาส่งตนฟ้องศาลเนื่องจากตนไปรับซื้อของโจร ตนไม่มีเงินทองที่จะประกันตัว จึงต้องจำยอมต้องติดคุก แต่ตนเป็นห่วงลูกจะอยู่อย่างไร จะกินอย่างไร ตนหมดหนทางแล้วจึงจำเป็นต้องทำแบบนี้ ซึ่งหากตนออกจากคุกก็จะมาดูแลลูกต่อ
นายเฉลียว กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2557 ตนได้ไปซื้อเสาธงที่มีคนเอามาขายให้ โดยที่ไม่ทราบว่าเป็นของที่ขโมยมา ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาจับตนในข้อหารับซื้อของโจร ซึ่งตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะตนก็ซื้อมาจริง ๆ ถึงจะไม่ทราบก็ตาม ตนคิดมากเป็นห่วงลูกสาว แต่ตนก็ยังมีความหวังว่าหากทางอัยการไม่สั่งฟ้อง ตนก็จะได้อยู่กับลูกไม่ต้องหาคนมาดูแลลูก
ด้าน ด.ญ.จุฑามณี ลูกสาวของนายเฉลียว เปิดเผยว่า ตนเองก็เพิ่งจะทราบว่าพ่อจะต้องติดคุก เพราะพ่อเพิ่งจะบอก ตนสงสารพ่อมากหากพ่อต้องติดคุก ตนก็คงจะต้องอยู่คนเดียว ถามว่ากลัวไหมกลัวมาก ญาติก็ไม่ได้ติดต่อกันมานานมาก ก็ยังไม่รู้จะทำอย่างไร
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
