ณัฐวุฒิ จี้ ประยุทธ์ ชี้แจงกรอบเลือกตั้ง พร้อมดักคอ สนช.
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟชบุ๊ก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จี้ ประยุทธ์ ชี้แจงเรื่องกรอบเวลาจัดการเลือกตั้ง ชี้เคยบอกจะมีเลือกตั้ง ต.ค. 58 แต่ทำไมตอนนี้ให้ข่าวเลื่อนออกถึงปี 59 พร้อมซัดเรื่องวาระถอดถอน สมศักดิ์-นิคม ระบุ หาก สนช. ให้ผ่านก็ถือว่าทำเสียของ
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2557 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีต รมช.พาณิชย์ และเลขาธิการ นปช. ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ใน 2 ประเด็นใหญ่ คือ เรื่องกำหนดการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย เพื่อคืนอำนาจแก่ประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งตอนแรก พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยกล่าวไว้ว่าจะจัดขึ้นในได้เดือนตุลาคม 2558 แต่ไฉนตอนนี้มีการให้สัมภาษณ์โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ด้านกฎหมาย ว่าอาจเลื่อนออกไปจนถึงปี 2559 กับอีกประเด็นคือการพิจารณาวาระการถอดถอน ชี้ หากผ่านวาระนี้ว่าให้ สนช. มีอำนาจถอดถอนได้ และเกิดการถอดถอนขึ้น เท่ากับฆ่าหมู่ทางการเมือง โดยคนลงมือคนฝ่ายตรงข้ามที่เข้าไปมีตำแหน่งใน สนช. และเมื่อนั้นก็เท่ากับ สนช. ทำเสียของแล้ว โดยข้อความทั้งหมดมีดังนี้
"สัปดาห์นี้มีเรื่องใหญ่สองประเด็นที่คิดว่าจำเป็นต้องแสดงความเห็นให้ชัดเจน
เรื่องแรกคือกรอบเวลาที่จะมีการเลือกตั้งครั้งต่อไป คนไทยส่วนใหญ่รับรู้และเข้าใจตรงกันจากคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ และเนื้อเพลงที่เปิดให้ฟังทั้งวันว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเดือนตุลาคม ๒๕๕๘ แต่พอ ดร.วิษณุ เครืองาม ให้สัมภาษณ์ว่าอาจเลื่อนไปถึงปี ๒๕๕๙ โดยอ้างกระบวนการร่างกฎหมาย พล.อ.ประยุทธ์ ก็ตอบไม่ชัดเรื่องเวลาขึ้นมาด้วย
แน่นอนว่าโดยหลักการ จะเลือกตั้งได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญใหม่ กฎหมายลูก และเนื้อหาการปฏิรูปต้องเสร็จสิ้นเสียก่อน แต่ในโลกของความเป็นจริงเรื่องเหล่านี้จะแล้วเสร็จเมื่อไหร่อยู่ที่ คสช.เอง ถ้าเดินตามโรดแม็ปทุกอย่างก็จะเป็นตามสัญญา ถ้าขาดความชัดเจนตั้งแต่วันนี้คำสัญญาจะกลายเป็นเรื่องเลื่อนลอยจับต้องไม่ได้ อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้เวที ASEM ยืนยันความชัดเจนเรื่องกรอบเวลาคืนอำนาจเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นในสายตานานาชาติและคนไทยทั้งประเทศ
ดร.วิษณุ พูดเรื่องกระบวนการก็เป็นความเห็นของคณะ "ผู้รับเหมา" ที่รับงานร่างรัฐธรรมนูญกันมาแล้วหลายฉบับ ถ้า "เจ้าของโครงการ" ยืนยันตามแผนเดิมผู้รับเหมาย่อมดำเนินการตอบสนองได้ ต้องเข้าใจว่า "เจ้าของโครงการ" ตกลงไว้กับประชาชนซึ่งเป็นผู้บริโภคอย่างไร ถ้าทำไม่ได้เขาจะโวยวายเอากับ "เจ้าของโครงการ" ส่วน "ผู้รับเหมา" ก็แค่เก็บของรองานหากมีโครงการใหม่ ผมไม่ได้คาดคั้น พล.อ. ประยุทธ์ นะครับ แต่ผมเอาใจช่วยและไม่มีความคิดจะเคลื่อนไหวให้เป็นอุปสรรค เพราะเห็นว่าเท่าที่เป็นอยู่ก็ไม่ใช่งานง่ายอยู่แล้ว
อีกเรื่องคือการพิจารณาถอดถอนประธานสมศักดิ์กับประธานนิคมที่จะลงมติกันพรุ่งนี้
ในฐานะผู้ไม่มีส่วนได้เสีย เพราะไม่อยู่ในบัญชีถอดถอนใด ๆ ผมยืนยันว่า สนช. ไม่มีอำนาจทำได้ และถ้าลงมือทำ ความหมายของเรื่องนี้คือการเริ่มต้นฆาตกรรมหมู่ทางการเมือง ที่อาจรวมถึง นายกฯ ยิ่งลักษณ์และ ส.ส.-ส.ว. อีกกว่า ๓๐๐ ชีวิต แถมเป็นการลงมือของคนที่เป็นฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองซึ่งไปนั่งอนู่ใน สนช. หลายคนด้วย
ถ้าคำว่า "ไม่เสียของ" คือการสร้างความสามัคคีปรองดองของทุกฝ่ายในบ้านเมือง ผมฟันธงล่วงหน้าว่าหาก สนช. มีมติบรรจุวาระถอดถอนแล้วลงมติถอดถอนกันไปจริง ๆ "เสียของ" ตั้งแต่วันนั้นเลยครับ"