กลุ่มแม่บ้านโดนตุ๋นทางเฟซบุ๊ก ชวนลูกถ่ายโปรไฟล์ คิดค่าหัวรายละพัน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก “เตย ตอง ตังค์”

            แม่บ้านหอบลูกเข้าร้องสื่อ โดนตุ๋นทางเฟซบุ๊ก อ้างชวนเด็กมาถ่ายรูปโปรไฟล์ เพื่อคัดเลือกเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าสำหรับเด็ก คิดค่าดำเนินการรายละ 1,000 บาท

            วานนี้ (20 ตุลาคม 2557) น.ส.รุ่งฤดี มหาเกษมศรี อายุ 33 ปี พร้อมแม่บ้านอีก 5 ราย หอบหิ้วลูก ๆ เข้าร้องเรียนสื่อมวลชน กรณีถูกผู้ใช้เฟซบุ๊ก “เตย ตอง ตังค์” โฆษณาผ่านเฟซบุ๊กว่า เป็นแมวมองสรรหาพรีเซ็นเตอร์เด็กเพื่อโฆษณาสินค้าประเภทต่าง ๆ สำหรับเด็ก หากคุณแม่ที่มีลูกชาย-ลูกสาว อายุระหว่างแรกเกิดถึง 5 ขวบ ที่มีความสนใจ อยากให้ลูกเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้า สามารถถ่ายภาพทำโปรไฟล์ไว้ก่อน แล้วทางเพจจะส่งภาพให้โมเดลลิ่งต่าง ๆ โดยคุณแม่ที่ต้องการจะถ่ายภาพโปรไฟล์ลูก จะต้องเสียค่าดำเนินการรายละ 1,000 บาท แต่เมื่อผู้เสียหายสอบถามไปยังผลิตภัณฑ์สินค้าสำหรับเด็กที่ถูกอ้างชื่อ ก็พบว่าไม่เคยมีการหาพรีเซ็นเตอร์เด็กผ่านเจ้าของเฟซบุ๊กรายนี้แต่อย่างใด รวมทั้งโมเดลลิ่งต่าง ๆ ก็ไม่ทราบเรื่องและถูกแอบอ้างเช่นเดียวกัน

            น.ส.รุ่งฤดี เปิดเผยว่า เมื่อประมาณต้นปี 2557 ได้พบเฟซบุ๊กชื่อ “เตย ตอง ตังค์” ชักชวนให้พาลูกสาว คือ น้องคาล่า อายุ 2 ขวบ ไปถ่ายภาพทำโปรไฟล์เพื่อนำเสนอโมเดลลิ่งต่าง ๆ จึงเกิดความสนใจเพราะจะได้มีรายได้พิเศษ จากนั้นเฟซบุ๊กดังกล่าวก็ได้มีการติดต่อให้ไปถ่ายภาพโปรไฟล์เอาไว้ โดยตนต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ 1,000 บาท และมีคุณแม่ที่พาลูกมาถ่ายภาพแบบนี้กว่า 100 ราย จากนั้นไม่นานก็ได้รับการติดต่อว่า ลูกสาวได้รับคัดเลือกให้เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้า 3 ตัว ของผู้ผลิตสินค้าสำหรับเด็กแห่งหนึ่ง จึงพาลูกไปถ่ายภาพกับผลิตภัณฑ์โดยไม่ได้มีการเซ็นสัญญาจ้างต่อกัน เพียงแต่พูดคุยตกลงกันด้วยวาจาว่า จะมีการโอนเงินค่าจ้างเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้า ชิ้นละ 3,000 บาท ภายหลัง แต่ก็ไม่เคยได้รับเงินเลย แม้จะพยายามทวงถามหลายครั้ง ทำให้เธอเชื่อว่าน่าจะถูกหลอกลวง

            จากนั้นเธอจึงพยายามสืบหาติดตามข้อมูลเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว จนพบว่ามีการบล็อกรายชื่อเหยื่อที่เริ่มระแคะระคาย นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนชื่อจาก “เตย ตอง ตังค์” เป็น “สวัสดี ใบเตย” และหลอกลวงผู้เสียหายอย่างต่อเนื่อง ตนจึงให้สามีที่เป็นตำรวจช่วยเหลือสืบค้นจนทราบเบาะแสเจ้าของเฟซบุ๊กรายนี้ และได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ บก.ปอท. เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา และเหตุที่ต้องเข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนในครั้งนี้ ก็เพื่อไม่อยากให้คุณแม่ที่มีลูกวัยใกล้เคียงกับลูกสาวตน ต้องตกเป็นเหยื่อซ้ำอีก

            ขณะเดียวกัน นางอนุชตระลา โอกะดะ อายุ 29 ปี ผู้เสียหายอีกรายซึ่งมีสามีเป็นชาวญี่ปุ่น ได้พาลูกชายอายุ 1 ปี 3 เดือน เข้ามาร้องเรียน และเผยว่าได้รับการติดต่อทางหน้าเฟซบุ๊กเช่นกัน จากนั้นได้พาลูกไปถ่ายภาพโปรไฟล์และต้องเสียเงิน 1,000 บาท ที่อ้างว่าเป็นค่าเสื้อที่สวมใส่ แต่ภายหลังก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจ้างงาน โดยมาทราบภายหลังว่ารูปของลูกชายถูกนำไปใช้เป็นรูปประจำตัวในไลน์กลุ่มที่มีการติดต่อกันระหว่างคุณแม่แต่ละคน

            ส่วน น.ส.ธัญวรัตม์ ป้องกัน อายุ 31 ปี คุณแม่ที่เป็นผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เธอต้องเสียเงินจำนวน 4,500 บาท เพื่อพาลูกชายคือ น้องไตตั้น อายุ 2 ขวบ ไปถ่ายรูปโปรไฟล์ จากนั้นก็ได้รับการติดต่อว่าลูกชายได้รับงานถ่ายแบบแค็ตตาล็อกสินค้าให้ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แต่เมื่อถึงวันกำหนดถ่ายภาพ กลับได้รับการแจ้งยกเลิกงานไป

            ขณะที่ นายสมยศ อุทัยธรรม อายุ 39 ปี กล่าวว่า กรณีของตนได้รับความเสียหายเนื่องจากถูกแอบอ้างชื่อไปเกี่ยวข้องกับการกระทำการของเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว ทั้งที่ไม่ทราบเรื่องหรือเกี่ยวข้องใด ๆ และถูกเข้าใจผิดจากบรรดาคุณแม่ที่เป็นผู้เสียหาย

            ด้าน นายเบญจรงค์ โตคำ หรือ คลาส อายุ 22 ปี นักแสดงประกอบจากภาพยนตร์เรื่อง “สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก” บอกว่า ตนถูกเจ้าของเฟซบุ๊กที่บรรดาผู้เสียหายอ้างถึง หลอกให้อุ้มเด็กถ่ายภาพ โดยอ้างว่าถ่ายไว้เป็นที่ระลึก แต่มาทราบภายหลังว่า ภาพเหล่านี้ถูกใช้ในการโฆษณาสินค้าเสื้อผ้า ซึ่งเด็กสวมใส่อยู่ โดยกลายเป็นตนไปสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเขาไปด้วย



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก