ชูวิทย์ ซัด ป.ป.ช. ไม่กล้าเช็กทรัพย์สิน สปช. ไม่รู้กลัวอะไร

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก ชูวิทย์ I'm No.5

            ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ซัด ป.ป.ช. ไม่กล้าเช็กทรัพย์สินของสมาชิก สปช. ไม่รู้เพราะว่ากลัวคนทำเพื่อชาติ หรือกลัวอะไรกันแน่

            เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2557 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ชูวิทย์ I'm No.5 ระบุว่า จากกรณีที่ ป.ป.ช. มีมติให้ สปช. ไม่ต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สิน เพราะเป็นการทำหน้าที่ทางวิชาการไม่มีผลประโยชน์ได้เสีย เป็นการทำหน้าที่ที่ต้องใช้ความสามารถ และความรู้ในการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองนั้น ทำให้เห็นว่า ป.ป.ช. กำลังพยายามสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับสังคม เพราะหลังจากนี้หากไม่อยากแสดงบัญชีทรัพย์สินก็คงไม่ต้องคิดหาข้ออ้างอะไรมาก แค่บอกว่า ตนเองทำงานเพื่อชาติ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงของประเทศ แค่นี้ก็รอดตัวกับแบบสบาย ๆ แล้ว

            พอเป็นแบบนี้ ก็ไม่รู้ว่า เหตุผลที่ ป.ป.ช. มีมติออกมาเช่นนี้ เพราะกลัวคนทำเพื่อชาติ หรือกลัวอะไรกันแน่

            ข้อความที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ลงเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ I'm No.5 มีดังนี้

            สิ้นหวัง ?

            "ป.ป.ช. มีมติให้ สปช. ไม่ต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สิน ชี้ไม่มีประโยชน์ได้เสีย"

            http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1413882462

            การปฏิรูปเปรียบเสมือนการกำหนดเส้นทางเดินใหม่ให้กับประเทศ ว่าจะเดินหน้าไปทิศทางใดในอนาคต จึงเกี่ยวเนื่องกับผลประโยชน์มากมายมหาศาล จะไปเปรียบเทียบกับนักวิชาการ อธิการบดีในมหาวิทยาลัย ที่สอนหนังสือ ให้ความรู้ แล้วรับเงินเดือนเพียงอย่างเดียวไม่ได้

            การจะปฏิรูปประเทศทั้ง 11 ด้าน เพื่อให้การเมืองโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ผู้เสนอตัวมาเป็นสภาปฏิรูปจำเป็นต้องแสดงให้เห็นเป็นตัวอย่าง

            แค่เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินถือเป็นเรื่องจิ๊บจิ๊บ ไม่มีอะไรต้องกลัว แสดงความบริสุทธิ์ใจให้สาธารณชนเห็นว่า "เสนอตัวเอง" เข้ามาทำเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริง

            ไม่ใช่มากระมิดกระเมี้ยน อ้างว่าเสียสละ แล้วหยวน ๆ กันไป

            ป.ป.ช. กำลังสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับสังคม “ใครอ้างตัวว่าทำเพื่อชาติ จะได้รับการยกเว้น”

            ถามจริง ๆ เถอะ จะกลัวอะไร? ตกลงจะมาปฏิรูปประเทศให้เดินหน้า หรือพาประเทศเดินถอยหลัง?

            เรากำลังสิ้นหวังกับกระบวนการยุติธรรม ที่ไม่ใช่มีไว้เพื่อใครคนใดคนหนึ่ง กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ความยุติธรรมมีไว้เพื่อคนไทยทุกคน

            ไม่ว่าจะเป็นนายพล ดอกเตอร์ พ่อค้าแม่ค้า หรือตาสีตาสาที่ไหน

            หากความยุติธรรมไม่เกิดขึ้นในสังคม ไม่ใช่แค่ใครคนใดคนหนึ่ง กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ที่พ่ายแพ้

            ประเทศไทยต่างหาก ที่พ่ายแพ้