x close

นายกฯ พอใจเยือนลาว คุยรถไฟทางคู่-จ่อเปิดเขตเศรษฐกิจเพิ่ม


ประยุทธ์ จันทร์โอชา
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

นายกฯ พอใจเยือนลาวคุยรถไฟทางคู่ จ่อเปิดเขตศก.เพิ่ม (ไอเอ็นเอ็น)
 
          นายกรัฐมนตรี พอใจเยือน สปป.ลาว หารือเชื่อมโยงทางรถไฟทางคู่ เปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษเพิ่ม สนับสนุนเงินทุนสร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่ 5-6 ขณะบินเวียดนามต่อ

          วันที่ 27 พฤศจิกายน 2557 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเยือนสาธารณประชาธิปไตยประชาชนลาวในครั้งนี้ ว่า ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ซึ่งไทยและลาวเป็นประเทศที่ใกล้ชิดกันมากที่สุด มีความใกล้เคียงทั้งภาษาและวัฒนธรรม ทั้ง 2 ประเทศเห็นพ้องที่จะสานความร่วมมือด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะความเชื่อมโยงระหว่างกัน

          ทั้งนี้เรื่องสำคัญที่ต้องเร่งผลักดันคือ ผลการพูดคุยที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ เป็นการต่อยอดจากการประชุมในเวทีต่าง ๆ ที่ผ่านมา รวมถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับแนวชายแดน เช่น เรื่องค่าผ่านแดน การสร้างถนนและเส้นทางต่าง ๆ โดยไทยจะสนับสนุนแหล่งทุนและเงินกู้ในการสร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่ 5 (บึงกาฬ-ปากซัน) และพร้อมพิจารณาให้ความร่วมมือและศึกษาก่อสร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่ 6 (อุบล-แขวงสาละวัน) นอกจากนี้จะเพิ่มมิติการค้าการลงทุน เพิ่มผลผลิตทางการเกษตร และผลักดันเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน ที่มีแนวคิดจะเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษเพิ่มที่จังหวัดหนองคาย

          อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ได้หารือกับลาวเรื่องการเชื่อมโยงทางรถไฟทางคู่ กรุงเทพฯ-หนองคาย และลาวจะสร้างต่อ โดยจีนสนับสนุนงบประมาณการก่อสร้าง คาดว่าดำเนินการได้ในปีหน้า นอกจากนี้ไทยยังต้องการขยายตลาดทุนตลาดหลักทรัพย์ โดยให้ต่างประเทศตั้งบริษัทเงินทุนในไทย

          ขณะเดียวกัน ไทยพร้อมสนับสนุนการซื้อไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ตามเพดานเดิมที่ได้มีการตกลง และสนับสนุนการซื้อขายไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ผ่านไทยไปมาเลเซียและสิงคโปร์ ส่วนการส่งเสริมการลงทุน ได้เสนอให้ BOI ร่วมมือกับหน่วยงานส่งเสริมการลงทุน ปรับระเบียบของลาว เพื่อดึงดูดนักลงทุน

          พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ไทยต้องการขยายการนำเข้าแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย สำหรับเข้ามาทำงานในพื้นที่ตอนในของประเทศไทย  ส่วนของแรงงานประเภทไปเช้า-กลับเย็นและตามฤดูกาลที่เข้ามาทำงานตามแนวชายแดน รัฐบาลต้องการปรับปรุงให้การเดินทางผ่านเข้า-ออกสะดวกยิ่งขึ้น รัฐบาลจึงมีแนวคิดที่จะจัดทำบัตรผ่านแดนในลักษณะ Smart Card ซึ่งจะทำให้การเดินทางของทั้งสองฝ่ายสะดวกขึ้น เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว รองรับการเปิดตลาดการค้าและเขตเศรษฐกิจพิเศษบริเวณชายแดนได้อย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น

          ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวย้ำแก่ภาคเอกชนไทยให้ความสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งหลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีและภริยา พร้อมคณะ จะเดินทางออกจากท่าอากาศยานวัดไต โดยเครื่องบินพิเศษ RTAF 211 เพื่อเดินทางไปกรุงฮานอย ในโอกาสเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ












เรื่องที่คุณอาจสนใจ
นายกฯ พอใจเยือนลาว คุยรถไฟทางคู่-จ่อเปิดเขตเศรษฐกิจเพิ่ม อัปเดตล่าสุด 27 พฤศจิกายน 2557 เวลา 15:38:42 6,183 อ่าน
TOP