x close

ตำรวจค้นบ้านเครือข่าย พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ เพิ่ม - กรมศิลป์เร่งตรวจโบราณวัตถุ


ตำรวจจ่อบุกค้นบ้านเครือข่าย พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ เพิ่มเติม
ตำรวจจ่อบุกค้นบ้านเครือข่าย พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ เพิ่มเติม

สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม

            ข่าวตำรวจ พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ล่าสุดตำรวจจ่อบุกค้นบ้านเครือข่ายเพิ่มเติม เล็งถอดยศนายตำรวจถูกจับ ขณะที่กรมศิลปากรขอเวลาตรวจสอบโบราณวัตถุที่ยึดมาได้ว่าจริงหรือปลอม และครอบครองได้อย่างไร พบบางชิ้นอาจมีอายุถึง 1,200 ปี

            ความคืบหน้าในการสืบสวนขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการของคดี พล.ต.ท. พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. วันนี้ (29 พฤศจิกายน 2557) พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ ผช.ผบ.ตร. และรักษาราชการแทน ผบช.ก. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในวันนี้ทีมสืบสวนจะลงพื้นที่ตรวจค้นบ้านพักของเครือข่ายของ อดีต ผบช.ก. อีกหนึ่งหลัง โดยตั้งอยู่ในย่านถนนรามอินทรา ซึ่งสืบทราบว่าเป็นแหล่งซุกซ่อนทรัพย์สินอีกจำนวนมาก ตลอดทั้งพยานหลักฐานเพิ่มเติมในคดีนี้ด้วย

            ส่วนการขยายผลเครือข่ายการกระทำความผิด ของ อดีต ผบช.ก. ในครั้งนี้ พล.ต.ท. ประวุฒิ ระบุว่า ถือว่าได้ตัวเครือข่ายที่ออกหมายจับไปครบถ้วนแล้ว โดยยังเหลืออีก 5 คน ที่กำลังตามจับกุมตัวอยู่ ตามหมายจับที่ศาลได้อนุมัติออกมาล่าสุด โดยเป็นคดีที่เกิดความผิด ที่ สน.วัดพระยาไกร

            นอกจากนี้ พล.ต.ท. ประวุฒิ ยังกล่าวด้วยว่า ยังเตรียมพิจารณาถอดยศนายตำรวจที่มีการจับกุมดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นสถาบัน และข้อหาอื่น ๆ อย่างน้อยอีก 7 คน แต่ต้องรอพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมายก่อน

            ด้านการตรวจสอบโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และของมีค่า ซึ่งเป็นของกลางที่ยึดจากเครือข่าย พล.ต.ท. พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ นั้น วานนี้ (28 พฤศจิกายน 2557) นายบวรเวท รุ่งรุจี อธิบดีกรมศิลปากร ได้แถลงข่าวว่า ในการตรวจพิสูจน์ครั้งนี้ กรมศิลปากร โดยคณะกรรมการตรวจพิสูจน์โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ รวมถึงบุคคลภายนอกจะเข้ามาร่วมทำงาน ซึ่งจะต้องใช้ความชำนาญ ประสบการณ์ และหลักฐานทางประวัติศาสตร์มาใช้ในการดำเนินงาน แยกแยะบ่งชี้ว่าชิ้นไหนเป็นของจริง หรือของปลอม และต้องขอเวลาในการพิสูจน์ความชัดเจน

กรมศิลป์เร่งตรวจโบราณวัตถุ

            นายบวรเวท กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ กรมศิลปากรจะประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตรวจสอบที่มาของการครอบครอง ว่ามีอะไรบ้าง เพราะกฎหมายประเทศไทย ไม่ได้ห้ามบุคคลมีโบราณวัตถุไว้ในครอบครอง แต่หากมีการครอบครองแล้ว จะต้องชี้แจงได้ว่าได้มาครอบครองได้อย่างไร

            นอกจากนี้จะต้องตรวจสอบว่าโบราณวัตถุบางชิ้นที่คนทั่วไปไม่สามารถมีไว้ในครอบครองได้ และควรอยู่ในศาสนสถาน เช่น เทวรูปหินทราย ถ้าหากเป็นของจริง สันนิษฐานว่าเป็นศิลปะลพบุรี พุทธศตวรรษที่ 12 อายุประมาณ 1,200 ปี และพระพุทธรูปไม้ ศิลปะอยุธยาตอนปลาย อีกประเด็นหนึ่ง เนื่องจากของกลางยังมีพระพุทธรูปอีกจำนวนมากที่ทำจากไม้ และสำริด

            ดังนั้นจะมีการตรวจพิสูจน์เพื่อเป็นหลักฐานเปรียบเทียบกับกรณีที่มีการแจ้งหายมาก่อนหน้านี้ ซึ่งที่ผ่านมากรมศิลปากร ได้จัดทำทะเบียนโบราณวัตถุ โดยเฉพาะที่อยู่ในครอบครองของวัด หรือสถานที่ราชการ หรือเอกชนไว้แล้ว









เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ตำรวจค้นบ้านเครือข่าย พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ เพิ่ม - กรมศิลป์เร่งตรวจโบราณวัตถุ อัปเดตล่าสุด 29 พฤศจิกายน 2557 เวลา 08:26:17 37,002 อ่าน
TOP