ชายวัย 50 หลอกแต่งงานสาววัย 18 อ้างให้สินสอด 1 ล้าน
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
หนุ่มใหญ่หลอกตุ๋นแต่งงานสาววัย 18 ปี อ้างจะหาสินสอดมาให้ 1 ล้านบาท ก่อนความแตกเหตุใส่ซองให้พระเป็นกระดาษหนังสือพิมพ์ รับหาสินสอดไม่ได้
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2557) ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่า เกิดเหตุชายวัย 50 ปี เข้ามาหลอกสู่ขอสาววัย 18 ปี หวังแต่งเป็นภรรยา พร้อมเสนอสินสอดให้ 1 ล้านบาท โดยเหตุเกิดขึ้นที่บ้านดู่พัฒนา ต.เค็งใหญ่ อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ เมื่อ นายสิทธิพันธ์ ทับเกษม อายุ 50 ปี ประกอบอาชีพร้านขายของชำ ได้มาหลอกต้มตุ๋นว่าจะมาขอ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นักเรียนโรงเรียนกีฬา จังหวัดศรีสะเกษ โดยจะมอบสินสอดให้จำนวน 1 ล้านบาท ทางด้านแม่ของ น.ส.บี จึงได้นำรถไถ ไปจำนำเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานแต่งงานครั้งนี้
กระทั่งเมื่อเย็นวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา นายสิทธิพันธ์ได้เดินทางมาที่บ้านว่าที่เจ้าสาว แล้วบอกทางแม่เจ้าสาวว่า เงินที่จะนำมาสู่ขอนั้นได้ฝากเข้าไว้ในบัญชีเรียบร้อยแล้ว เพราะเกรงว่าถ้าถือเงินสดมาจะทำให้เป็นที่ล่อตาล่อใจโจร ทำให้แม่ว่าที่เจ้าสาวหลงเชื่อโดยไม่ได้ติดใจอะไร จนเมื่อถึงเวลา 09.09 น. วันรุ่งขี้น (19 ธันวาคม) เมื่อได้ฤกษ์พิธีบายศรีสู่ขวัญ บ่าว-สาว แม่ว่าที่เจ้าสาวจึงได้นิมนต์พระ 9 รูป เพื่อมาทำพิธี จนถึงเวลาที่ถวายปัจจัย ว่าที่เจ้าสาวจึงได้เขียนซองให้นายสิทธิพันธ์นำปัจจัยใส่ซองเพื่อถวายพระ ซึ่งหลังจากถวายพระเป็นที่เรียบร้อย จึงได้นิมนต์พระกลับวัด ที่บ้านงานแต่งก็เป็นไปด้วยความคึกคักสนุกสนานของบรรดาแขกที่มาร่วมงาน
อย่างไรก็ตาม ต่อมาพระที่นิมนต์มาได้โทรมาบอกทางแม่ว่าที่เจ้าสาวว่า ปัจจัยที่นำใส่ซองมาให้นั้นมีเพียงกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ตัดใส่ซองมาให้ สร้างความอับอายและไม่พอใจให้กับทางครอบครัวของว่าที่เจ้าสาวเป็นอย่างมาก ทางแม่ว่าที่เจ้าสาวจึงขอดูสมุดบัญชีที่ว่านำเงินสินสอดไปฝากไว้ ก็ปรากฏว่าไม่มีเงินสินสอดตามที่นายสิทธิพันธ์ได้บอกไว้ ครอบครัวว่าที่เจ้าสาวจึงได้พากันนำตัวนายสิทธิพันธ์ไปยัง สภ.หัวตะพาน
โดยนายสิทธิพันธ์ ยอมรับว่าทำเรื่องทั้งหมดจริง เนื่องจากตนไม่มีเงินติดตัวมาด้วยสักบาท ส่วนเรื่องเงินค่าสินสอดนั้น เนื่องจากตนมีปัญหากับทางบ้านที่ไม่ยอมให้เงินค่าสินสอด จึงได้โกหกไป โดยคิดว่าหลังจากเข้าพิธีเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงจะหาวิธีนำเงินสินสอดมาให้อีกที
ทางด้านแม่ว่าที่เจ้าสาวไม่ได้ติดใจเรื่องที่เกิดขึ้นดังกล่าว แต่ขอให้เจ้าบ่าว-เจ้าสาวแยกทางกันโดยไม่มียุ่งเกี่ยวกันอีก เนื่องจากเหตุการณ์ครั้งนี้ได้สร้างความอับอายให้กับครอบครัวและลูกสาวเป็นอย่างมาก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
