ผู้ใจบุญรุดช่วย เด็ก ม.1 กินข้าวคลุกน้ำปลา แม่ตาย พ่อติดคุก

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก จรัสพงษ์ แสงแก้ว, เฟซบุ๊ก ปุณณดา ณ.เพชรบูรณ์, เฟซบุ๊ก บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์

            เด็ก ม.1 กินข้าวคลุกน้ำปลา เพราะแม่ตาย พ่อติดคุก ที่แชร์กันในโลกไซเบอร์ ล่าสุดได้รับการช่วยเหลือแล้ว โดย บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พร้อมทีมร่วมกตัญญู รุดมอบเงิน 20,000 บาท ขณะที่หน่วยงานอื่น ๆ เร่งเข้าไปดูแล

            จากกรณีที่ชาวสังคมออนไลน์แชร์ภาพและเรื่องราวของ ด.ช.แสงเพชร จันทร์ขาว อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนซับบอนวิทยาคม จ.เพชรบูรณ์ ต้องกินข้าวสวยกับพริกป่นคลุกน้ำปลาประทังชีวิต เนื่องจากพ่อติดคุก ส่วนแม่เสียชีวิตไปเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ทำให้ไม่มีเงิน และไม่มีใครดูแล ขนาดน้ำเปล่ายังไม่มีเงินซื้อ ต้องดื่มน้ำก๊อกแทน และกลายเป็นเด็กเงียบ ๆ ไม่ร่าเริงเหมือนก่อน จึงขอให้ผู้ใจบุญเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งข้อความและเรื่องราวดังกล่าวได้ถูกแชร์ต่อกันมากมายนั้น

            ล่าสุดวันนี้ (25 มกราคม 2558) มีรายงานว่าคนใจบุญต่างทยอยเข้าช่วยเหลือ ด.ช.แสงเพชร แล้ว โดยเฟซบุ๊ก ปุณณดา ณ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นผู้โพสต์เล่าเรื่องราวของเด็กคนนี้ ระบุว่า ได้โทรศัพท์ไปสอบถามอาจารย์ที่ดูแลน้องแล้ว ทราบว่าขณะนี้นักข่าวช่อง 3 ได้เดินทางมาที่บ้านของน้องแล้ว คาดว่าเรื่องคงจะถึงคุณสรยุทธ์แล้ว ตนรู้สึกดีใจที่น้องมีคนเข้ามาดูแลแล้ว และขอขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจและให้เงินบริจาคมา

            ขณะที่ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ระบุว่า ทางทีมงานของเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูได้เข้าไปช่วยเหลือมอบเงินให้น้องแล้ว 20,000 บาท ขณะที่หน่วยงานต่าง ๆ ได้นำข้าวปลาอาหารไปช่วยเหลือน้องแล้วเช่นกัน


            "สวัสดีครับเพื่อน ๆ..ตอนนี้เบื้องต้นทีมงานของเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู นำโดย นาย ปรีชา เลิศกระจ่างจินดา ได้เข้าไปช่วยเหลือแล้ว โดยมอบเงินให้น้อง หรือ เด็กชาย แสงเพชร จันทร์ขาว อายุ 14 ปี จำนวน 20,000 บาท และในเบี้องต้นก็มีหลายหน่วยงานเอาข้าวปลาอาหารแห้งไปให้แล้วครับ เรื่องบัญชีของน้อง วันจันทร์ ท่าน ผอ.จะไปเปิดให้น้องใหม่ โดยเอาเงินที่ผมให้ไปเปิดธนาคารใหม่ เลขที่อะไรนั้น วันจันทร์จะแจ้งให้ทราบ
ครับ น้องฝากขอบคุณทุก ๆ ท่านที่ช่วยเหลือน้อง (คุยกับน้องทางโทรฯ) ต่อไปนี้

            น้องจะได้กินข้าวอร่อย ๆ แล้ว จะใช้เงินอย่างประหยัดที่สุด..จะมีผู้ดูแลเงินให้ 4 คน ใช้ 3 ใน 4 คนเซ็น ถึงจะเบิกได้ครับ ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่ช่วยกันทำให้น้องได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นครับ..

            ในรูปคือบ้านที่น้องอยู่ครับ..นี้ขนาดทานข้าวกับน้ำปลาตัวยังอ้วนเลยครับ..555 สวัสดีครับ"


            นอกจากนี้ ยังมีเฟซบุ๊ก จรัสพงษ์ แสงแก้ว โพสต์รายงานความคืบหน้าการเข้าช่วยเหลือจากหน่วยงานต่าง ๆ ว่า

            "กรณีข่าวของ ด.ช.แสงเพชร จันทร์ขาว นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ที่กำลังเป็นที่สนใจในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก อยู่ในขณะนี้นั้น

            โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ขอยืนยันว่า ด.ช.แสงเพชร จันทร์ขาว เป็นนักเรียนของโรงเรียนจริง เลขที่บัญชีที่มีการนำไปโพสต์ไว้ เป็นเลขที่บัญชีของนักเรียนจริง มีปู่ที่คอยดูแล ชื่อ นายเย็น จันทร์ขาว อยู่บ้านเลขที่ 16/3 ม.1 ต.กันจุ อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ มีนิสัย เป็นคนเงียบขรึม ไม่ค่อยพูด เกรงใจผู้อื่น มีโลกส่วนตัวไม่ค่อยชอบเล่นกับเพื่อน

            ขอเรียนให้ทุกท่านทราบ ดังนี้

            1. การโพสต์ภาพขอความช่วยเหลือ เป็นการโพสต์ของครูพี่เลี้ยงของโรงเรียน ที่มีความรู้สึกสงสารนักเรียน ที่ในวันนั้นนำข้าวมาทานกับพริกน้ำปลา จึงได้ถ่ายภาพไว้ และขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ ที่เป็นศิษย์เก่า (ตามภาพ โพสต์ต้นฉบับ) และเนื่องจากมีผู้เห็นภาพชุดนี้ เกิดเมตตาสงสาร จึงช่วยกระจายข่าวเพิ่มเติม

            2. ทางด้านครอบครัว ด.ช.แสงเพชร เป็นบุตรคนเดียวของครอบครัว ปัจจุบันอยู่บ้านคนเดียว เนื่องจาก บิดาติดคุกและมารดาเสียชีวิต แต่ข้างๆบ้าน มีบ้านปู่-ย่า บ้านลุง-ป้า ขนาบซ้ายขวา และญาติพี่น้องคอยดูแล ช่วยเหลือตลอด ไม่ได้ปล่อยให้อดให้อยากตามข่าว นับตั้งแต่ที่มารดาเสียชีวิต ปู่ ได้ย้ายมานอนกับหลานทุกวัน

            3. บ้านพักของ ด.ช.แสงเพชร มีจักรยาน เก่า 1 คัน แต่ปัจจุบันจักรยานชำรุด จึงไม่มีจักรยานใช้

            4. ระยะทางจากบ้านมาโรงเรียนซับบอนวิทยาคม ประมาณ 10 กิโลเมตร การเดินทางมาโรงเรียนก่อนที่มารดาจะเสียชีวิต มารดากับบิดาเป็นผู้รับส่ง และหลังจากที่มารดาเสีย ทางโรงเรียนได้ติดต่อให้ด.ช.แสงเพชร อาศัยรถจักรยานยนต์ มาโรงเรียนกับรุ่นพี่ ม.6 ที่อยู่ในหมู่บ้านเเดียวกัน ซึ่งครอบครัวของรุ่นพี่คนนี้ก็ยินดีให้น้องเดินทางมาด้วย

            5. โรงเรียนมีการช่วยเหลือ ด.ช.แสงเพชร และนักเรียนคนอื่นๆที่เดือดร้อนตลอดเวลา โดยจัดครูที่ปรึกษา ดูแลใกล้ชิด มีการเยี่ยมบ้านนักเรียน จัดหาทุนการศึกษาให้ และคุณครูบางท่านเมตตา มอบเงินไว้ให้ใช้ โดยจะควบคุมดูแลการใช้จ่ายเป็นอย่างดี บางวันก็จัดหากับข้าว หรือนั่งทานข้าวกับนักเรียนด้วย

            6. สมุดบัญชีที่ ด.ช.แสงเพชร เป็นเจ้าของ ได้เปิดบัญชี มาตั้งแต่วันที่ 15-10-2557 (ไม่ได้เปิดบัญชี เพื่อรับบริจาคในครั้งนี้) เพื่อรับเงินสงเคราะห์จาก พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด เพชรบูรณ์ จำนวน 2,000 บาท กรณีที่มารดาเสียชีวิต และปัจจุบันเงินดังกล่าว ยังเหลือเท่าเดิม

            สำหรับ วันนี้ 24 มกราคม 2558 ที่บ้านของ ด.ช.แสงเพชร มีกิจกรรมดังนี้

            1) มีนักข่าวจาก ช่อง 3 และเพชรบูรณ์เคเบิ้ลทีวี มาทำข่าว

            2) พระครูนครพัชรโพธิ เจ้าอาวาสวัดเวียงโพธิ์งาม อ.บึงสามพัน ทราบข่าว เดินทาง พร้อมคณะสงฆ์, พ.ต.ท. ชลอ ช้างเผือก รองผู้กำกับป้องกันปราบปราม สภ.บึงสามพัน, ร.ต.ท. วัชระ ธูปทอง รอง สวป.สภ.บึงสามพัน และ หน่วยกู้ภัยสว่างบึงสามพันฯ ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชน, บก. สันติ สินสุนันท์ (นสพ.ประชาธิปไตย), คุณสหัสพล ทิพยนนท์ (ผจก.เมืองไทยประกันชีวิต สาขาบึงสามพัน) นำของอุปโภค-บริโภค-จักรยาน 1 คัน ช่วยเหลือ พร้อม มอบเงิน 3,000 บาท

            3) พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด เพชรบูรณ์ และ บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.เพชรบูรณ์ เดินทางมาเยี่ยม เพื่อให้ความช่วยเหลือ และมอบเงินช่วยเหลือ จำนวน 4,000 บาท

            4) ช่วงเย็น 24-1-2558 คณะมูลนิธิร่วมกตัญญู มามอบเงินบริจาค จากคุณ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ จำนวน 20,000 บาท โดยมีคุณปรีชา เลิศกระจ่างจินดา หัวหน้าร่วมกตัญญู จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นตัวแทนมอบเงินเพื่อเป็นทุนการศึกษาของ ด.ช.แสงเพชร จันทร์ขาว โดยมีผู้ปกครอง, รอง ผอ.โรงเรียนซับบอนวิทยาคม, ผู้ใหญ่บ้าน, หน่วยกู้ภัยสว่างบึงสามพัน จุดลำตะคร้อ ร่วมเป็นพยานรับมอบ/น้องได้คุยโทรศัพท์กับพี่บิณฑ์ และขอบคุณพี่บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ด้วยครับ


            จำนวนเงินที่ได้รับ ทางปู่ ของ ด.ช.แสงเพชร เป็นผู้รับมอบ และดูแลการใช้จ่าย

            โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ขอขอบคุณ ผู้มีจิตเมตตาทุกท่าน ที่เมตตาให้ความสนใจ ให้ความอนุเคราะห์ ให้ความช่วยเหลือ ด.ช.แสงเพชร จันทร์ขาว มา ณ โอกาสนี้"

            ขณะที่ นางสุดสวาท ประไพเพชร ผู้อำนวยการโรงเรียนซับบอนวิทยา ได้กล่าวขอบคุณผู้ที่ให้ความช่วยเหลือลูกศิษย์รายนี้  พร้อมระบุว่าลูกศิษย์คนนี้เป็นเด็กในกลุ่มพัฒนาการช้า ปัจจุบันอยู่กับปู่และป้าโดยมีฐานะยากจน วันที่เกิดเหตุการณ์นี้ ปกติเด็กจะนำอาหารมาร่วมกินกับเพื่อนในกลุ่มและครูพี่เลี้ยง แต่จู่ ๆ หายไป ครูจึงตามไปพบ โดยเห็นนั่งกินข้าวคนเดียวกับข้าวสวยมีพริกป่นคลุกกระเทียม จึงนำข้อความมาโพสต์ เพื่อขอความช่วยเหลือกระทั่งมีกระแสตอบตอบรับ ส่วนทางโรงเรียนมีการหารือว่าจะพาลูกศิษย์รายนี้ไปเปิดบัญชีธนาคารในวันจันทร์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริจาคอีกทางหลังมีผู้ใจบุญแสดงเจตจำนงต้องการบริจาคผ่านทางโรงเรียน