สลด พบซากพะยูนเพศผู้ อายุ 3-5 ปี หนัก 120 กก. ถูกฆ่าตัดหัว มัดลำตัวถ่วงน้ำเอาไว้ ก่อนที่จะมีชาวประมงไปพบซากที่ชายฝั่งทะเลอันดามัน
วันนี้ (18 กุมภาพันธ์ 2558) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. วานนี้ (17กุมภาพันธ์) ดร.ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 เดินทางไปที่ สภ.หาดสำราญ จังหวัดตรัง เพื่อตรวจสอบซากพะยูน เพศผู้ อายุประมาณ 3-5 ปี น้ำหนัก 120 กิโลกรัม ยาวประมาณ 2 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลตะเสะ อำเภอหาดสำราญ นำซากพะยูนตัวดังกล่าวเข้าแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวัน หลังมีชาวประมงในพื้นที่เจอซากพะยูนตัวนี้ในช่วงเช้าขณะออกไปทำประมง แถบชายฝั่งทะเลอันดามันนอกกองหิน ห่างจากชายฝั่งประมาณ 3 กิโลเมตร อยู่ตรงระหว่าง หมู่ 3 บ้านทุ่งเปลวกับหมู่ 2 บ้านนาชุมเห็ด ตำบลตะเสะ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตรวจสอบซากพะยูนตัวดังกล่าว พบว่าส่วนหัวพะยูนถูกตัดออก เหลือแต่บริเวณลำตัว ที่ใช้เชือกไนลอนผูกติดกับก้อนหินขนาดใหญ่มัดที่บริเวณลำคอ และส่วนหางถ่วงน้ำเอาไว้ คนร้ายคงหวังจะทำลายหลักฐาน อีกทั้งบริเวณลำคอและส่วนท้องมีลำไส้ทะลักออกมา คาดว่าตายมาแล้วประมาณ 2-3 วัน
ด้าน ดร.ก้องเกียรติ กล่าวว่า ตนเชื่อว่า พะยูนตัวดังกล่าวน่าจะว่ายน้ำหากินแล้วเข้าไปติดเครื่องมือทำประมงของชาวประมงโดยบังเอิญ จากนั้นจึงถูกชาวประมงตัดเอาส่วนหัวไป เหลือบริเวณลำตัวและส่วนหางจึงใช้เชือกซึ่งเป็นวัสดุที่ชาวประมงใช้ผูกติดกับก้อนหินขนาดใหญ่ทั้ง 2 ข้าง แล้วถ่วงน้ำเอาไว้ หวังทำลายหลักฐาน ส่วนสาเหตุการตายคงต้องทำการผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
อย่างไรก็ตาม พะยูนในทะเลตรังเป็นฝูงใหญ่ ตนมองว่าเราต้องช่วยกันป้องกันไม่ให้มีการตายเกินปีละ 5 ตัว เพราะถ้าเกินกว่านั้นอาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ได้ โดยปีนี้พะยูนตัวนี้เพิ่งตายเป็นตัวแรก แต่จากสถิติในปี 2557 พบพะยูนตายมาแล้ว 7 ตัว ซึ่งตนรู้สึกเป็นห่วงสถานการณ์
