หลังจากที่ตกเป็นข่าวฮือฮา กรณีหนุ่มเยอรมันรักเมืองไทย ตระเวนทำความสะอาดตู้โทรศัพท์ และกวาดขยะริมถนนในเขตเทศบาลนครอุดรธานี จนชาวสังคมออนไลน์พากันกระหน่ำแชร์ พร้อมแสดงความชื่นชมถึงความมีน้ำใจงามของฝรั่งคนนี้กันล้นหลาม ตามที่ข่าวได้รายงานไปแล้วนั้น [ อ่าน หนุ่มฝรั่ง เผย เก็บขยะเมืองอุดรฯ มา 5 ปีแล้ว ปีหน้าจะมาทำให้อีก คลิก ]
ล่าสุด (27 กุมภาพันธ์ 2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนุ่มเยอรมันนามว่า นายปีเตอร์ รูดี้ เฟสเท็ตลิง อายุ 55 ปี ได้เดินทางกลับเมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนีแล้ว เมื่อช่วงค่ำของวานนี้ (26 กุมภาพันธ์) ขณะที่เจ้าหน้าที่กระทรวงท่องเที่ยวได้มอบผ้าพันคอเป็นผ้าไหมหมี่ขิดแทนน้ำใจจากชาวเมืองอุดรฯ
รายงานระบุว่า เมื่อครั้งที่นายปีเตอร์ อยู่เมืองไทย ได้พักอยู่ที่โรงแรมเจริญโฮเต็ล อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งก่อนจะเดินทางกลับประเทศเยอรมนีเพื่อไปทำงานต่อนั้น มีพนักงานโรงแรมทั้งชายและหญิงต่างแห่มาถ่ายรูปด้วย บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น ซึ่งนายปีเตอร์ ไม่ถือตัว และเป็นกันเองกับทุกคน ทั้งนี้ทางโรงแรมได้มอบของที่ระลึกให้นายปีเตอร์ด้วย
โดยนายปีเตอร์ พูดผ่านล่ามว่า ตอนอยู่ที่เยอรมัน ตนก็ทำอย่างนี้ประจำ ถือเป็นเรื่องปกติและไม่คิดว่ามาทำที่ประเทศไทย แล้วคนไทยจะชื่นชมแบบนี้ ตนรู้สึกดีใจและรักเมืองไทยมาก โดยเฉพาะจังหวัดอุดรธานี เพราะเป็นเมืองที่สงบดี ไม่วุ่นวายเหมือนในตัวเมืองกรุงเทพฯ อีกทั้งชอบอาหารไทย โดยเฉพาะข้าวผัดไก่ และอาหารที่รสชาติไม่จัดจ้าน นอกจากนี้จะฝึกพูดภาษาไทยให้ได้ ซึ่งตอนนี้พูดได้แค่นิดหน่อยเอง และจะกลับมาเมืองไทยแน่นอนในช่วงต้นปีหน้า
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ขณะที่นายปีเตอร์กำลังทำความสะอาดริมถนนอยู่นั้น ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.อุดรธานี ได้เข้ามาขอตรวจพาสปอร์ตของนายปีเตอร์ โดยอ้างว่า นายสั่งให้มาตรวจ กลัวจะเป็นคนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งนายปีเตอร์ก็นำพาสปอร์ตติดตัวมาด้วย ยื่นให้ตำรวจดู แต่ประชาชนที่เหตุการณ์ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตำรวจทำไม่เหมาะสมเพราะฝรั่งคนนี้มีน้ำใจดี น่าจะให้เกียรติมากกว่านี้
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร, เฟซบุ๊ก Udonthani Update
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
