รองปธ. กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ เผย ทิชา ลาออก ไม่กระทบการทำงาน เชื่อเหตุผลส่วนตัว ไม่ทราบ สปช.จะส่งใครมาแทน
วันนี้ (1 มีนาคม 2558) ศาสตราจารย์ สุจิต บุญบงการ รองประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงการลาออกของ นางทิชา ณ นคร จากตำแหน่งสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ว่า การลาออกของนางทิชาไม่เป็นปัญหาในการทำงาน แต่เสียดายความรู้และความสามารถ แต่เชื่ออาจเป็นเหตุผลส่วนตัวที่ต้องลาออก ขณะเดียวกันการทำงานของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญต้องดำเนินต่อไป ซึ่งส่วนตัวยังไม่ทราบว่า สปช.จะส่งสมาชิกคนใดมาแทน
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ฝ่ายเลขาธิการกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จะมีการยกร่างบทเฉพาะการ เนื่องจากรัฐธรรมนูญรายมาตราเสร็จแล้ว เหลือเพียง 3-4 ประเด็นซึ่งต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ส่วนในวันที่ 5-6 มีนาคมนี้ จะมีการประชุมกรรมาธิการยกร่างฯ เต็มคณะ ซึ่งจะมีการพิจารณาความสอดคล้องและถ้อยคำในแต่ละมาตราให้มีความชัดเจน เพื่อให้เสร็จก่อนช่วงสงกรานต์ และส่งให้ สปช. พิจารณา แต่จะไม่มีการแก้ไข ซึ่งหาก สปช.ไม่เห็นชอบ จะต้องยุบกรรมาธิการยกร่างฯ และ สปช.
ทั้งนี้ ในส่วนของร่างรัฐธรรมนูญที่มีความขัดแย้งจะต้องทำประชามติหรือไม่นั้น จะต้องให้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นผู้พิจารณา
นอกจากนี้ สมัชชาพลเมืองถือว่ามีความสำคัญ และเป็นวิสัยทัศน์หลักของกรรมาธิการฯ ที่ต้องการให้ประชาชนเป็นใหญ่ เพื่อตอกย้ำความรับผิดชอบของประชาชนต่อการดำเนินการทางการเมือง การตรวจสอบผู้นำและนักการเมือง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของประชาธิปไตย
ขณะเดียวกัน ปัญหาคือรัฐธรรมนูญที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะในส่วนของโครงสร้างนักการเมือง และแก้ไขโดยเพิ่มการตรวจสอบ รวมถึงกฎหมายให้อำนาจ ป.ป.ช. ในการสอบสวนน้อยมากจึงทำให้ข้าราชการ นักการเมืองบางคนหลุดคดีเนื่องจากอายุความ ซึ่งแม้จะผ่านการแก้ไขมาหลายครั้งแต่ยังเกิดปัญหา เช่น การทุจริตคอร์รัปชั่นในภาครัฐที่นักการเมืองก็ยังสามารถหลบหลีกได้จนเกิดการทุจริตในเชิงนโยบายอย่างโครงการรับจำนำข้าวที่มีความซับซ้อนและเกิดปัญหาที่ส่วนหนึ่งเพราะประชาชนมีความอ่อนแออยู่ภายใต้ระบบอุปถัมภ์
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีการกระจายอำนาจลงไปยังท้องถิ่นมากขึ้น แต่บุคคลที่ดีขึ้นไม่ใช่ประชาชน กลับเป็นองค์กรปกครองท้องถิ่นที่มีความเป็นอยู่ดีขึ้นจึงอยากให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่นมากขึ้น เหมือนในต่างประเทศซึ่งเห็นได้ชัดว่าเมื่อภาคประชาชนมีส่วนร่วม ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนโดยรวมก็ดีขึ้น
