ศาลอาญาพิพากษายกฟ้องหนุ่มลักรถตู้ช่วงการชุมนุมพันธมิตรฯ ปี 51 ชี้โจทก์ไม่มีประจักษ์พยาน
วันที่ 2 มีนาคม 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ว่า วันนี้ศาลได้อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.2238/2556 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายเอกพล น้อยเงิน อายุ 32 ปีจำเลย ในฐานความผิดร่วมกันลักทรัพย์ และรับของโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 และ 357 ประกอบมาตรา 83 โดยในวันนี้นายเอกพล จำเลย ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาด้วยตัวเองพร้อมกับ น.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความ
โดยสรุปตามฟ้องโจทก์ ระหว่างวันที่ 26 สิงหาคม-2 ธันวาคม 2551 มีคนร้ายได้ลักรถตู้ ทะเบียน 41-5160 กทม. และรถยนต์ อีก 2 คันรวมมูลค่า 3.5 ล้านบาท ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ผู้เสียหายไป เหตุเกิดที่ แขวง-เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ต่อมาวันที่ 24 ธันวาคม 2551 มีผู้พบเห็นจำเลยกับพวกครอบครองรถตู้ ทะเบียน 41-5160 กทม. จึงแจ้งข้อหาดำเนินคดีฐานลักทรัพย์ และรับของโจร จำเลยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ทั้งนี้เมื่อศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเป็นที่ยุติว่า เมื่อเดือนสิงหาคม 2551 กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ได้ชุมนุมปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล ทำให้ข้าราชการไม่สามารถเข้าทำงานได้ปกติ กระทั่ง 2 ธันวาคม 51 กลุ่ม พธม. ได้ยกเลิกการชุมนุม ต่อมาสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีผู้เสียหาย ได้ทำการตรวจสอบทรัพย์สินพบว่ารถตู้ และรถยนต์หายไป
ซึ่งจากการสืบพยานนั้นฝ่ายโจทก์ไม่สามารถหาประจักษ์พยานที่สามารถระบุได้ว่าจำเลยเป็นผู้ลักรถผู้เสียหายไป คงมีเพียงผู้รับมอบอำนาจจากสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่เป็นผู้เสียหายเบิกความหลังเบิกความว่า หลังจากพบทรัพย์สินหายไป จึงได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน และมีเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นหัวหน้าหมวดรถยนต์ ของผู้เสียหาย เบิกความว่ามีกุญแจรถยนต์ และรถตู้ที่หายไป
จากข้อสรุปทั้งหมดนั้นพบว่าพยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมายังมีความสงสัยตามสมควร จึงยกประโยชน์ความสงสัยให้จำเลย ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 วรรคสอง จึงมีคำสั่งพิพากษายกฟ้อง
ภายหลังจากศาลได้มีคำสั่งพากษาออกมานั้น น.ส.พวงทิพย์ กล่าวว่า จากนี้ต้องรอดูว่าอัยการจะยื่นอุทธรณ์คดีอีกหรือไม่ ส่วนนายเอกพลที่ผ่านมาได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างการพิจารณาคดี และได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
