x close

ยื่นฟ้อง ถวิล พึ่งมา พร้อมพวก คดียักยอกเงิน สจล. สอบคำให้การ 23 มี.ค.นี้


ยื่นฟ้อง ถวิล พึ่งมา พร้อมพวก คดียักยอกเงิน สจล. สอบคำให้การ 23 มี.ค.นี้
 
          อัยการยื่นฟ้องผู้ต้องหารวม 11 คน คดียักยอกทรัพย์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พร้อมนัดสอบปากคำ 23 มีนาคมนี้ จ่อประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติล่าผู้ต้องหาที่หลบหนีอีก 3 คน
 
          เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา พนักงานอัยการคดีอาญา 11 (มีนบุรี) ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายถวิล พึ่งมา อายุ 61 ปี อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) พร้อมพวกรวม 11 คน ประกอบด้วย

นายทรงกลด ศรีประสงค์ อายุ 40 ปี อดีตผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ฯ สาขาบิ๊กซีสุวินทวงศ์

น.ส.อำพร  น้อยสัมฤทธิ์
อายุ 56 ปี อดีตผู้อำนวยการส่วนการคลัง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)

นายพูนศักดิ์ บุญสวัสดิ์
อายุ 26 ปี

น.ส.จันทร์จิรา โสประดิษฐ์
อายุ 27 ปี

นางสมบัติ โสประดิษฐ์
อายุ 44 ปี

นางระดม มัทธุจัด
อายุ 55 ปี

นายจริวัฒน์ สหพรอุดมการณ์
อายุ 32 ปี

นายภาดา บัวขาว
อายุ 28 ปี

นายสรรพสิทธิ์ ลิ่มนรรัตน์
อายุ 51 ปี อดีตผู้ช่วยอธิการบดี สจล.

นายศรุต ราชบุรี
อายุ 54 ปี เป็นจำเลยที่ 1-11
 

          โดยมีความผิดฐาน ร่วมกันลักทรัพย์, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม, ร่วมกันปลอมตั๋วเงินและใช้ตั๋วเงินปลอม, เป็นพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ร่วมกันเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือผู้อื่นโดยทุจริต, เป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด, ร่วมกันฟอกเงิน, สนับสนุนพนักงานมีหน้าที่ซื้อทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือของผู้อื่นโดยทุจริต, สนับสนุนพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 157, 264, 265, 266, 268, 335  พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กร หรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 3,4,8,11 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราบการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3, 5, 7, 10 และ 60
 
          จากคำฟ้องสามารถสรุปพฤติการณ์ได้ว่า เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2555 น.ส.อำพร ผู้อำนวยการส่วนการคลัง ได้ทำบันทึกถึงนายสมศักดิ์ คูหาสวรรค์เวช ผู้ช่วยอธิการบดี ปฏิบัติหน้าที่แทนอธิการบดี เพื่อขอถอนเงินจากบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง รวม 4 บัญชี เป็นเงินจำนวน 510,000,000 บาท ของ สจล. เพื่อนำไปฝากบัญชีประเภทฝากประจำ ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ฯ สาขาบิ๊กซีสุวินทวงศ์ โดยอ้างว่าจะได้ผลกำไรมากกว่าเดิม และอธิการบดีได้ลงนามอนุมัติ จนวันที่ 26 มิถุนายน 2555 น.ส.อัมพร ได้นำเงินดังกล่าวไปเข้าบัญชี ธ.ไทยพาณิชย์ โดยระบุผู้มีอำนาจในการสั่งจ่ายบัญชีประกอบด้วย น.ส.อำพร นายถวิล นายสรรพสิทธิ์ น.ส.ระวิวรรณ
 
          ต่อมาปรากฏว่าในช่วงวันที่ 19 กรกฎาคม 55–12 พฤศจิกายน 55 น.ส.อำพร และนายถวิล ได้ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ และมีจำเลยบางส่วนรวมกันให้ความช่วยเหลือสนับสนุน ลักทรัพย์เอาเงินของ สจล. ไปหลายครั้งหลายหน โดยนายถวิลรู้เห็นและยินยอมให้นายสรรพสิทธิ์ ซึ่งไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการเงินได้ร่วมกับน.ส.อำพร ถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝาก ธ.ไทยพาณิชย์ฯ ไป และมีจำเลยบางส่วนทีหลบหนีอยู่ร่วมกันฟอกเงินด้วยการนำเงิน 303,860,643.96 บาท ของ สจล. โอนกลับเข้าบัญชีเงินฝาก ธ.ไทยพาณิชย์ฯ สาขา สจล.  เพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สิน เพื่อไม่ต้องให้รับโทษหรือรับโทษน้อยลง
 
          โดยหลังจากอ่านคำฟ้องศาลได้ประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.1992/2558 พร้อมนัดสอบคำให้การจำเลยในวันที่ 23 มีนาคมนี้  เวลา 13.00 น.
 
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้พนักงานสอบสวนกองปราบได้รวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมสรุปสำนวนส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด 14 ราย ส่งให้อัยการฝ่ายคดีอาญา 11 (อัยการจังหวัดมีนบุรี) เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมีผู้ต้องหา 3 รายที่ยังหลบหนี และยังไม่ได้นำตัวมาฟ้องในวันนี้ประกอบด้วย นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด, นายสมพงษ์ สหพรอุดมการณ์ และนายธวัชชัย ยิ้มเจริญ
 
          ด้านนายพูนศักดิ์ อุทกภาชน์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 11 (มีนบุรี) กล่าวว่าคณะทำงานได้มีการส่งฟ้องจำเลยคดีดังกล่าว 14 ราย ตามสรุปสำนวนของกองปราบ โดยมีจำเลยบางรายจะครบกำหนดฝากขังครั้งสุดท้ายในวันนี้  ซึ่งทางอัยการก็ได้ยื่นฟ้องจำเลย 11 รายในคดี สจล. ต่อศาลจังหวัดมีนบุรี แต่ไม่ได้คัดค้านการประกันตัวแต่อย่างใด 
 
          ส่วนจำเลยที่ยังหลบหนีอยู่และยังไม่ได้ตัวมาอีก 3 ราย ประกอบด้วย นายกิตติศักดิ์ นายสมพงษ์ และนายธวัชชัย ทางอัยการยังไม่ได้ดำเนินการยื่นฟ้องคดีต่อศาล เพราะต้องรอให้ได้ตัวจำเลยมาก่อน 
 
          ทั้งนี้สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ศาลได้นัดสอบคำให้การจำเลยในวันที่ 23 มีนาคม  เวลา 13.00 น. โดยศาลจะอ่านคำพิพากษาและสอบถามจำเลยทั้งหมดว่าจะยอมรับหรือให้การปฏิเสธ ส่วนจำเลยที่ยังหลบหนีอยู่ จะประสานกับสำนักงานตำรวจแห่งขาติเพื่อขอศาลออกหมายจับ และนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป
 




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก









เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ยื่นฟ้อง ถวิล พึ่งมา พร้อมพวก คดียักยอกเงิน สจล. สอบคำให้การ 23 มี.ค.นี้ อัปเดตล่าสุด 18 มีนาคม 2558 เวลา 17:53:04 3,830 อ่าน
TOP