ศักดิ์ชัย กาย บรรณาธิการนิตยสารลิปส์ ถูกทายาทตระกูล ณ ป้อมเพ็ชร์ ฟ้องร้อง ใช้เอกสารปลอมเบิกเงินของบิดาหลายครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 158 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2558 สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้ตรวจสอบพบว่า พล.ต.ต. เพ็ชร์ ณ ป้อมเพ็ชร์ โดย น.ส.นพมาศ ณ ป้อมเพ็ชร์ ฐานะผู้อนุบาล เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายศักดิ์ชัย กาย บรรณาธิการนิตยสารลิปส์ เป็นจำเลย ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยคดีดังกล่าวยื่นฟ้องตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 2557 และศาลได้นัดพิจารณาคดีวันที่ 22 มิถุนายน 2558
ทั้งนี้ โจทก์ได้กล่าวหาว่าจำเลยปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม โดยกรอกรายการในใบถอนเงินของธนาคารและเช็ค ที่มีลายมือชื่อของ พล.ต.ต. เพ็ชร์ ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชี แล้วนำไปเบิกหรือถอนเงินจากธนาคารโดยทุจริตหลายครั้งหลายหนต่อเนื่องกันจนกระทั่งถึงปี 2551 รวมเป็นเงิน 158,330,000 บาท
โดยสรุปคร่าว ๆ จากคำฟ้องว่า นายศักดิ์ชัย ได้เข้ามาช่วยดูแลความเป็นอยู่ของ พล.ต.ต. เพ็ชร์ เมื่อปี 2541 จากการแนะนำของ นายวิวรรธน์ ณ ป้อมเพ็ชร์ ซึ่งเป็นพี่ชายของ พล.ต.ต. เพ็ชร์ โดย พล.ต.ต. เพ็ชร์ วัย 76 ปีในขณะนั้น ป่วยเป็นโรคประจำตัว ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นประจำ ใช้ยานอนหลับเป็นประจำทุกวัน ทำให้มีอาการเบลอ จำใครไม่ค่อยได้ ระหว่างนั้น นายศักดิ์ชัย ได้คอยดูแลเรื่องการนำส่งโรงพยาบาล จ้างบุคคลต่าง ๆ เข้ามาดูแล จนได้รับความไว้วางใจ และเป็นเหตุให้บุตรของ พล.ต.ต. เพ็ชร์ ไม่สามารถเข้ามาดูแลพ่อโดยสะดวก
คำฟ้องยังระบุว่า จำเลย (นายศักดิ์ชัย) ได้กระทำทุกวิถีทางที่จะได้เข้าไปควบคุมดูแลทรัพย์สินของโจทก์ (พล.ต.ต. เพ็ชร) แม้แต่ผู้อนุบาลและน้องชายของโจทก์ก็ไม่สามารถเข้าไปดำเนินการเพื่อปกป้องทรัพย์และดูแลโจทก์ได้ กระทั่งปี 2554 ช่วงน้ำท่วมกรุงเทพฯ ผู้อนุบาลได้อ้อนวอนให้โจทก์ย้ายมาอยู่ด้วย เพื่อจะได้ดูแล และเมื่อสอบถามเรื่องทรัพย์สิน โจทก์จะพูดเพียงสั้น ๆ ว่า อยากได้เงินพร้อมกับบ้านที่จำเลยเอาไปคืนมา
ต่อมาในปี 2555 โจทก์ป่วยหนักต้องผ่าตัดสมอง และจากการผ่าตัดทำให้โจทก์ไม่สามารถพูดจาได้ และสูญเสียความทรงจำ ผู้อนุบาลจึงได้ตรวจสอบสมุดบันทึกช่วยจำของโจทก์ ก็พบว่า จำเลยเอาเงินของโจทก์ไปเป็นร้อยล้านบาท ผู้อนุบาลจึงได้ร้องขอต่อศาลเพื่อเป็นผู้อนุบาลของโจทก์
จากนั้นผู้อนุบาลได้ตรวจสอบข้อมูลบัญชีธนาคารหลายแห่ง ก็พบว่า จำเลยอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจและสนิทสนมกับโจทก์ กระทำผิดต่อกฎหมาย จึงได้ฟ้องฐานปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม ถอนเงินจากธนาคารและนำทรัพย์สินของโจทก์ไปตั้งแต่ปี 2543-2551 เป็นเงินรวม 158,330,000 บาท
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้โทรศัพท์ไปยังนิตยสารลิปส์ เพื่อขอสอบถามนายศักดิ์ชัยในเรื่องนี้ แต่หลังจากเลขาฯ นายศักดิ์ชายฟังคำถามแล้ว ก็ได้ตัดสายทิ้ง และไม่สามารถติดต่อได้อีก
ภาพจาก Instagram sakchaiguy
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
