วันนี้ (17 เมษายน 2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ รศ. ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้แนะนำให้จับตาดู นายเกล็น ทาวน์เซนด์ เดวีส์ ที่จะมาดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยคนใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมาทูตของสหรัฐฯ มีความสามารถเชื่อมโยงเพียงแค่บางกลุ่มการเมืองในประเทศไทย อาจทำให้มีผลกระทบในความสัมพันธ์ ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง เพราะทูตต้องประสานได้ทุกฝ่าย ไม่ใช่ให้น้ำหนักฝ่ายใดฝ่ายเดียวนั้น
ในเวลาต่อมา รศ. ดร.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ อาจารย์ประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ได้แสดงความเห็นในเฟซบุ๊กส่วนตัว Pavin Chachavalpongpun ถึงเรื่องดังกล่าวว่า นายปณิธานตั้งข้อสังเกตดังกล่าวเพียงฝ่ายเดียว โดยไม่พิจารณาฝ่ายตนเองว่ามีความเป็นกลางแค่ไหน และยังเป็นเรื่องมารยาททางการทูต ที่บุคคลซึ่งเป็นอาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และยังดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ไม่ควรจะออกมาให้ความเห็นวิจารณ์เรื่องตัวบุคคลแบบนี้ รวมถึงเอกอัครราชทูตคนดังกล่าวยังไม่เริ่มทำงานด้วยซ้ำ โดยส่วนตัวเห็นว่าความสัมพันธ์ของไทยกับสหรัฐอเมริกาจะตกต่ำ น่าจะไม่ใช่เพราะทูตคนใหม่ แต่เป็นเพราะตัวนายปณิธานเอง
โดยข้อความทั้งหมด มีดังนี้
ปณิธาน วัฒนายากร ออกมาอีกแล้วครับพี่น้อง ขู่ว่าจะจับตามองทูตอเมริกันคนใหม่ แถมแอบเม้าท์ว่า ทูตอเมริกัน มีปัญหามาก ฉาบฉวย และให้น้ำหนักฝ่ายเดียว....
ผมขอแนะว่า ปณิธานเอากระจกมาส่องตัวเองบ้าง ไปจิกด่าเค้าเรื่องให้น้ำหนักฝ่ายเดียว เอ่อ ไม่ทราบว่า ตัวเองเป็นกลางแค่ไหน ...แต่ที่สำคัญ มันไม่ใช่มารยาททางการทูต ตัวเองเป็นอาจารย์ IR แถมเป็นกระบอกเสียงให้ คสช เรื่องแบบนี้
เค้าไม่ออกมาให้ความเห็นกับสื่อ โดยเฉพาะการวิจารณ์ตัวบุคคลแบบนี้ และทูตคนนี้ก็ยังไม่ได้เริ่มงานด้วยซ้ำ ...ถ้าความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ จะตกต่ำ ไม่ใช่เพราะทูตคนใหม่ แต่เป็นเพราะความปากหมาของปณิธาน.... จบนะ ?
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun
