ประจิน เสนอ รถไฟ – รถเมล์ – รถทัวร์ ใช้พลังงานไฟฟ้าหมด เลิกใช้รถดีเซล

           พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง เผยแผนอนาคต รถไฟไทย – ขสมก. - บขส. หันมาใช้พลังงานไฟฟ้าหมดภายในปี 2575 ลั่นไม่กระทบต่อการใช้ไฟฟ้าในประเทศ พร้อมเสนอโครงการนำร่องจะเริ่มใช้รถไฟพลังงานไฟฟ้าเส้นทางหาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ เชื่อมกับมาเลเซีย ในปี 2560

           วันที่ 5 พฤษภาคม 2558 พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงนโยบายที่ตั้งใจจะทำเกี่ยวกับระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ ได้แก่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.) และบริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) ว่า ได้จัดทำแผนการนำรถพลังงานไฟฟ้ามาใช้แทนรถดีเซล เพื่อลดการใช้พลังงานที่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยประหยัดพลังงานน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติที่มีราคาสูงขึ้น และผันผวนไม่แน่นอน เช่น เปลี่ยนจากรถเมล์เอ็นจีวีเป็นรถไฟฟ้า ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้

           ขณะเดียวกันตั้งใจด้วยว่า อนาคตรถไฟไทยจะเปลี่ยนมาใช้ระบบรถไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2575 โดยจะไม่เหลือรถไฟดีเซลอีกแล้ว พร้อมประสานให้ รฟท. หาวิธีจัดหาหัวรถจักรใหม่ โดยใช้วิธีเช่าแทนการซื้อขาด เพื่อให้ปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีรถไฟให้ทันสมัยอยู่เสมอ และมั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อการใช้ไฟฟ้าในประเทศแน่นอน โดยในส่วนของรถไฟประเมินว่าจะใช้ไฟฟ้าเพิ่ม 1 - 2% หรือ 500 เมกะวัตต์ จากการใช้พลังงานไฟฟ้าทั่วประเทศ 26,000 เมกะวัตต์ ซึ่งหลังจากนี้รัฐบาลมีแผนสร้างแหล่งผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสง พลังงานลมในภาคอีสานเพิ่มเติมอีกด้วย

           ในส่วนโครงการนำร่อง จะเริ่มใช้รถไฟพลังงานไฟฟ้าเส้นทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ เชื่อมกับประเทศมาเลเซีย ในปี 2560 ขณะที่รถไฟทางคู่ไทย-จีน ขนาดราง 1.435 เมตร จะใช้พลังไฟฟ้า ซึ่งนำเข้าจากประเทศลาว

           นอกจากนี้ พล.อ.อ. ประจิน ยังกล่าวอีกว่า ด้านการจัดหารถเมล์ ขสมก.รอบแรก 489 คัน ยังคงเป็นรถเมล์เอ็นจีวีอยู่ ซึ่งจะรับมอบและให้บริการได้ในเดือนกรกฎาคมนี้ แต่การจัดหาระยะที่สอง อีก 2 พันกว่าคันนั้น จะเปลี่ยนเป็นรถเมล์พลังไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ได้รับรายงานผลศึกษาเบื้องต้นแล้ว และจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีรับทราบภายในเดือนพฤษภาคมนี้

           ขณะที่รถโดยสาร บขส. ซึ่งได้รับรายงานผลศึกษาเบื้องต้นแล้วเช่นกัน แต่หากรถโดยสาร บขส. หันมาใช้พลังไฟฟ้าจริง จะวิ่งได้เฉพาะในเส้นทางระยะใกล้ ซึ่งใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 5 ชั่วโมง เช่น กรุงเทพฯ ไปปริมณฑล หรือรถวิ่งระหว่างอำเภอในต่างจังหวัด เพราะปัจจุบันรถพลังไฟฟ้าต้องชาร์จใหม่ทุก 5 ชั่วโมง จึงยังไม่สะดวกในการชาร์จไฟ


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก