ตำรวจแถลงจับ กิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหาคนสำคัญคดียักยอกทรัพย์เงิน สจล. หลังถูกกดดันจากอังกฤษจนหนีกลับไทย เจ้าตัวปัดไม่เกี่ยวขบวนการฟอกเงิน แค่ยืมเงินจาก "ทรงกลด" ด้านเจ้าหน้าที่เร่งติดตามผู้ต้องหา อีก 2 รายที่ยังคงหลบหนี
วันที่ 22 พฤษภาคม 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 11.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เป็นประธานการแถลงข่าวจับกุม นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหาตามหมายจับคนสำคัญในคดียักยอกทรัพย์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. กว่า 1,600 ล้านบาท หลังเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าผู้ต้องหาจะเดินทางกลับประเทศไทยในเวลาประมาณ 05.00 น. วันนี้ จีงนำกำลังเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าติดตามจับกุมที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังหลบหนีไปพักอาศัยที่ประเทศอังกฤษเป็นเวลานานกว่า 5 เดือน
พล.ต.อ. สมยศ กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้เป็นผลจากการที่ตำรวจไทยเคยทำงานร่วมกันกับตำรวจอังกฤษตั้งแต่คดีฆาตกรรมที่เกาะเต่า จึงมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้ส่งพลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจ พร้อมทีมงานไปประสานขอความช่วยเหลือกับตำรวจอังกฤษให้ช่วยติดตามตัวจนทราบว่า นายกิติศักดิ์ หลบหนีอยู่ที่ไหน แต่เจ้าหน้าที่อังกฤษแจ้งว่าไม่สามารถควบคุมตัวส่งให้ทางการไทยได้ เนื่องจากกฎหมายของประเทศอังกฤษไม่เหมือนประเทศไทยที่หากพบว่ามีผู้หลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย จะต้องถูกส่งตัวกลับ แต่สำหรับประเทศอังกฤษนั้นมีขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่าของไทย เจ้าหน้าที่จึงใช้วิธีการกดดันผู้ต้องหาทุกวิถีทางจนสุดท้ายไม่สามารถอยู่ที่อังกฤษได้ จนต้องหนีกลับมาที่ไทยในที่สุด
จากนั้นทางตำรวจอังกฤษจึงประสานมายังตำรวจไทยทันที หลังจากผู้ต้องหาเดินทางออกจากประเทศอังกฤษ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เตรียมกำลังไปดักรออยู่ที่สนามบินและเข้าจับกุมได้ในที่สุด พร้อมยืนยันว่าพฤติกรรมของผู้ต้องหาไม่ใช่การมอบตัว เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาไม่ได้ติดต่อขอมอบตัวตามขั้นตอนทางกฎหมายแต่อย่างใด พร้อมคัดค้านการประกันตัว
อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหายังคงให้การภาคเสธ โดยยอมรับว่ารู้จักกับ นายทรงกลด ศรีประสงค์ อดีตผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารไทยพาณิชย์ ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ สจล. ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้จริง โดยตนเองได้ขอยืมเงินจากนายทรงกลด มาลงทุนทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สถานบันเทิง และบางส่วนได้นำไปเล่นการพนัน แต่ไม่รู้ว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินที่ได้มาจากการยักยอกทรัพย์ สจล. โดยมีการโอนเงินครั้งละ 1-2 ร้อยล้านบาท ตลอดระยะเวลา 3 ปี มีการโอนเงินทั้งสิ้นกว่า 1 พันล้านบาท และเงินอีกจำนวนหนึ่งได้กระจายไปยังบุคคลอื่น ๆ ในเครือข่าย ซึ่งเงินที่นายกิตติศักดิ์ กู้เงินมานั้นได้มีการผ่อนชำระคืนบางส่วนเป็นเงินประมาณ 10 ล้านบาท
ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เนื่องจากมีการโอนเงินเป็นจำนวนมาก แต่ผู้ให้กู้เงินกลับไม่สงสัยว่าผู้ต้องหาจะนำเงินดังกล่าวไปทำอะไร ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติเป็นอย่างมาก และยังเชื่อว่าผู้ต้องหามีการเตรียมตัวสำหรับสู้คดีมาเป็นอย่างดี ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อมาดำเนินคดีกับผู้ต้องหาต่อไป
นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสิ้น 10 ราย ซึ่งสามารถจับกุมได้แล้ว 8 ราย รวมนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหาที่จับได้ล่าสุด และอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวอีก 2 ราย คือ นายสมพงศ์ สหพรอุดมการณ์ และนายธวัชชัย ยิ้มเจริญ โดยคาดว่าจะสามารถจับกุมได้ในเร็ว ๆ นี้
ผบ.ตร. กล่าวเสริมว่า จากคำให้การของผู้ต้องหา คาดว่าช่วงเวลาที่หลบหนีอยู่ที่ประเทศอังกฤษ นายกิตติศักดิ์ น่าจะได้มีการปรึกษากับผู้ที่มีความรู้ด้านกฎหมายมาเป็นอย่างดี เพื่อตัดตอนความเกี่ยวข้องระหว่างตนเองกับ สจล. ซึ่งหลังจากฟังคำให้การของผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากพบพิรุธหลายจุด เช่น เหตุใดนายทรงกลดถึงให้ยืมเงินจำนวนมากกว่าพันล้าน และมีการโอนเงินครั้งละหลายร้อยล้านให้หลายสิบครั้ง โดยที่ไม่เคยทวงถามเงินคืน และไม่สนใจว่า 3 ปีที่ผ่านมาเอาเงินไปทำอะไรบ้าง นอกจากนี้หากเป็นการยืมเงินจริงควรต้องมีการคืนต้นและดอกเบี้ย แต่ที่ผ่านมาจำนวนเงินพันกว่าล้าน มีการคืนเงินไปแค่สิบกว่าล้านเท่านั้น ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้แน่นอน
ข่าวกิตติศักดิ์ มัทธุจัด แบบอัพเดททั้งหมดคลิกเลยภาพจาก ทวิตเตอร์ @yoware
