นักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ชี้แจงภาพปะทะกับตำรวจที่เข้ายุติการชุมนุมครบรอบ 1 ปี รัฐประหาร ที่หน้าหอศิลป์กรุงเทพฯ อ้างป้องกันตัว และถูกตำรวจบีบเป้าก่อน
วันที่ 25 พฤษภาคม 2558 นายรังสิมันต์ โรม นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกมาชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Rangsiman Rome หลังมีภาพปรากฏออกไปตามหน้าหนังสือพิมพ์ว่าเจ้าตัวทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ที่กำลังทำการยุติการชุมนุม ในวาระครบรอบ 1 ปี การรัฐประหาร ภายใต้ชื่อ "ศุกร์ 22 มาฉลองกันมะ?" ที่บริเวณหน้าหอศิลป์กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ภาพที่เผยแพร่ออกไปนั้นแสดงให้เห็นถึงการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและเหล่านักศึกษาด้วยความรุนแรง นายรังสิมันต์ ชี้แจงว่า สิ่งที่เจ้าหน้าที่ทำนั้นผิดกฎหมาย กฎหมายซึ่งได้มาจากการปล้นชิงอำนาจ การจับกุมในครั้งนี้ก็เต็มไปด้วยความป่าเถื่อน ทารุณ ซึ่งตนก็ถูกเจ้าหน้าที่ใช้มือล้วงเข้ามาบีบเป้าอย่างแรง พร้อมกับใช้กำลังทั้งเตะ ต่อย ตนขอยืนยันอีกครั้งว่าการกระทำของตนนั้นไม่ผิดกฎหมาย ทุกคนมีสิทธิในการป้องกันตัว โดยข้อความทั้งหมดระบุดังนี้
"เพื่อตอบคำถามให้ชัดขึ้น ว่าทำไมภาพที่ออกมาผมถึงแสดงออกอย่างนั้น (จริงๆ ผมก็ตอบไปบ้างแล้วในสเตตัสก่อนหน้านี้) ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า สิ่งที่เจ้าหน้าที่ทำนั้นผิดกฎหมาย เพราะได้มาจากการปล้นชิงอำนาจประชาชนมา ซึ่งในสังคมไทยเราสมาทานในระบอบประชาธิปไตย กฎหมายใดก็ตามที่ออกมาโดยไม่เป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตยจึงเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ประกอบกับเมื่อผู้ปกครองเป็นทรราชย์อย่าง พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา ประชาชนจึงมีสิทธิรวมตัวเพื่อโค่นล้มได้อยู่แล้ว
เมื่อการจับกุมเพื่อนผมเป็นไปอย่างป่าเถื่อนทารุณ มโนธรรมสำนึกของผมจึงไม่อาจอดทนต่อเจ้าหน้าที่ที่กระทำความรุนแรงต่อเพื่อนของพวกเราได้ พวกเราจึงคล้องแขนโดยตั้งใจฝ่าไปยังเพื่อนของเราเพื่อช่วยเหลือ
ในขณะที่เรากับเจ้าหน้าที่กำลังเบียดกันอยู่นั้น ก็มีเจ้าหน้าที่ล้วงมือมาที่เป้าของผม โดยบีบอย่างรุนแรง ซึ่งนั่นทำให้ผมได้รับความเจ็บปวดอย่างมาก ผมพยายามใช้เข่ากัน จากนั้นก็พยายามใช้เท้าเพื่อตอบโต้ให้มือนั้นหยุดการทำแบบนั้น เหตุการณ์จึงยิ่งนำไปสู่ความรุนแรงมากขึ้น ทหารและตำรวจโดยเฉพาะนอกเครื่องแบบ ได้ใช้กำลังเตะ ต่อยผม
ในฐานะที่ผมเองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่รักตัวกลัวตาย แม้จะพยายามฝ่าเข้าไปช่วยเพื่อนอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะลบเลือนสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดของผม ในความคิดของผม ผมเองก็กลัวที่จะตายเหมือนกัน ในเวลานั้นเราไม่รู้ว่าเขาพาเพื่อนไปไหน มีการซ้อมหรือไม่ ผมจึงพยายามเอาตัวรอด อย่างน้อยๆ ต้องไม่ถูกจับเพื่อจะได้ช่วยเพื่อนต่อ ไม่สู้ก็โดนทุบตีและถูกจับ สู้อาจจะมีลุ้นกว่า ผมก็พยายามอย่างเต็มที่ในการปกป้องตัวเองจากการกระทำที่ผิดกฎหมาย
จึงออกมาดังที่เห็นในภาพ ว่าผมได้กระชากผมตำรวจ และมีมือของตำรวจที่กระชากคอเสื้อผมเพื่อส่งต่อไปยังตำรวจคนอื่น ๆ เพื่อพาตัวผมไป ถ้าผมไม่สู้ หรือตัวเล็กกว่านี้ ผมคงถูกลากตัวไปนานแล้ว และความบอบช้ำทางร่างกายคงไม่ต่างจากเดิม เพราะเพื่อนหลายคนที่ไม่ต่อสู้ก็ได้รับบาดเจ็บไปไม่น้อยเหมือนกัน
ผมขอยืนยันอีกครั้งว่า การกระทำของผมไม่ผิดกฎหมาย เพราะผมปกป้องชีวิตจากการกระทำที่ผิดกฎหมาย ภายใต้การยึดอำนาจมาจากประชาชน ประชาชนทุกคนจึงมีสิทธิในการปกป้องตัวเองจากการกระทำที่ผิดกฎหมายเหล่านี้ โรม
(ขอเพิ่มเติมอีกนิด เมื่อกี้มีเพื่อนรักของผมเพิ่มเติมมาหลังไมค์ ว่าการจับคราวนี้ ไม่ชอบด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ประชาชนจึงมีสิทธิในการปกป้องตัวเอง ซึ่งที่ผ่านมาศาลฎีกาก็ได้ให้การรับรองสิทธินี้เอาไว้ตลอดมา)"
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Rangsiman Rome
