สนช. เสนอให้ตัดคำว่า พลเมือง-กลุ่มการเมืองออก ระบุห้าม ส.ว.เลือกตั้ง ปี 51-57 ลงสมัครซ้ำ และห้ามแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน 5 ปี
วันที่ 28 พฤษภาคม 2558 นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 1 ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษา เสนอแนะและรวบรวมความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ สนช. โดยมีมติเห็นชอบแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญดังนี้
1. ให้ตัดคำว่า พลเมือง ที่เน้นว่าจะต้องเป็นคนที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นสัญชาติไทยโดยการเกิดหรือการแปลงสัญชาติก็ตาม ออกจากร่างรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีความหมายในเชิงอุดมคติ และให้ใช้คำว่า บุคคล ที่หมายถึงคนสัญชาติใดก็ได้ ซึ่งรวมถึงคนที่ไม่มีสัญชาติด้วย และหมายความรวมถึงนิติบุคคลเท่าที่สภาพแห่งสิทธิและเสรีภาพจะเปิดช่องให้แทน ตามที่ปรากฏในรัฐธรรมนูญปี 2540 และ 2550
2. ที่มาของนายกรัฐมนตรีคนนอก คณะ กมธ.ฯ เห็นด้วยให้อาศัยคะแนนเสียงของ ส.ส. 2 ใน 3 แต่ให้ระบุความชัดเจนมากขึ้น เช่น ในกรณีที่ไม่มีสภาผู้แทนราษฎร และนายกรัฐมนตรีรักษาการที่ไม่สามารถดำรงตำแหน่งรักษาการได้ และเสนอให้ตัดมาตรา 181 และ 182 ออก ในการให้อำนาจนายกรัฐมนตรียุบสภา ในกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติไว้วางใจน้อยกว่ากึ่งหนึ่งได้ และในกรณีที่นายกรัฐมนตรีเสนอร่างพระราชบัญญัติใดต่อสภา หากสมาชิกสภาผู้แทนไม่ได้เข้าชื่อร่วมกันขอยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายเพื่อลงมติ ภายใน 48 ชั่วโมง ให้ถือว่าร่างพระราชบัญญัตินั้นผ่านการพิจารณาและความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร
3. ให้ผู้บริหารท้องถิ่นดำรงอยู่ในตำแหน่งวาระ คราวละ 4 ปี และดำรงตำแหน่งไม่เกิน 2 วาระติดต่อกัน ในกรณีที่ดำรงตำแหน่งไม่ครบ 4 ปี ให้ถือเป็น 1 วาระ และหากดำรงตำแหน่ง 2 วาระติดกัน จะสามารถกลับมาดำรงตำแหน่งได้อีกเมื่อพ้นระยะเวลา 4 ปี จากวันพ้นตำแหน่ง
4. ให้อำนาจถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูงเป็นอำนาจของวุฒิสภาไม่ควรให้รัฐสภา (2 สภา) ถอดถอน โดยกำหนดให้ ส.ว. ถอดถอน บุคคลออกจากตำแหน่งได้เฉพาะบุคคลที่ ส.ว. ให้ความเห็นชอบให้เข้าดำรงตำแหน่งเท่านั้น ส่วนบุคคลอื่น ๆ ให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาถอดถอน
5. กำหนดห้ามมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ในระยะเวลา 5 ปี หลังจากประกาศบังคับใช้แล้ว และเสนอเห็นควรบัญญัติให้ ส.ว. ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2557 และยังไม่ครบวาระ แต่ต้องพ้นจากตำแหน่งตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เท่านั้น ที่สามารถเข้าสู่ตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาได้ โดยไม่ถือว่ามีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญนี้ แต่ไม่ครอบคลุมถึง ส.ว. ที่เข้ารับหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่ระหว่างปี 2551-2557
6. ให้ตัดคำว่า กลุ่มการเมือง ออกจากร่างรัฐธรรมนูญ และเสนอให้สมาชิกวุฒิสภาที่มาจากการสรรหาทั้งหมด เพิ่มเงื่อนไขการสรรหาจากกลุ่มอาชีพให้ชัดเจน รวมทั้งเพิ่มคณะกรรมการสรรหาให้มากขึ้น ควรให้ผู้ที่ดำรงตำแหน่งประธานองค์กรแต่ละวิชาชีพเข้ามาอีกด้วย และตัดอำนาจ ส.ว. ในการเสนอร่างพระราชบัญญัติโดยสมาชิกวุฒิสภาออก ตัดอำนาจ ส.ว. ในการถอดถอนบุคคลที่วุฒิสภาไม่ได้เป็นผู้แต่งตั้งหรือให้ความเห็นชอบ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
