สั่งปิดไม่มีกำหนด บันจี้จั๊มพ์มรณะ หลังนักท่องเที่ยวคูเวตร่างกระแทกพื้นดับ เหตุสายยึดข้อต่อบริเวณข้อเท้าหลุดกลางอากาศที่ระดับความสูง 30 เมตร ด้านเจ้าของบอกเสียใจมาก ยืนยันรับผิดชอบทั้งหมด
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2558 นายสายัณห์ ชนะชัยวงศ์ นายอำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นางเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองป่าตอง พร้อมคณะ รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะทู้ ได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ "เวิลด์บันจี้จั๊มพ์" หลังเกิดอุบัติเหตุสลดนักท่องเที่ยวชาวคูเวต กระโดดบัมจี้จั๊มพ์แล้วสายยึดข้อต่อบริเวณเท้าหลุดจากเชือก ทำให้ร่างกระแทกพื้นดินเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 27 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นางเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองป่าตอง กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งระงับการใช้อาคารดังกล่าวแบบไม่มีกำหนด หลังลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วพบว่า "เวิลด์บันจี้จั๊มพ์" เปิดมา 13 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีการยื่นขออนุญาตก่อสร้างตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ที่ผ่านมาทางเทศบาลเคยแจ้งให้มีการขออนุญาต แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการ จนถูกสั่งระงับการให้บริการใช้อาคารไปแล้ว 1 ครั้ง เมื่อต้นปี 2547 ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องดูกฎหมายใหม่ ที่เพิ่งบังคับใช้เกี่ยวกับเครื่องเล่นว่าตามขอบเขตตามกฎหมายแล้ว จะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง
สำหรับ "เวิลด์บันจี้จั๊มพ์" เป็นอาคารชั้นเดียวริมสระน้ำ ส่วนเสาบันจี้จั๊มพ์ สูง 55 เมตร นายมนูญ นิลมั่น เจ้าหน้าที่ดูแลอุปกรณ์บันจี้จั๊มพ์ เล่าว่า ในวันเกิดเหตุ นายอับดุลลา อะเดล แคดดัมบาห์มาน อายุ 25 ปี ได้เข้ามาใช้บริการเวลาประมาณ 16.00 น. ซึ่งก็มีการตรวจสอบอุปกรณ์เป็นอย่างดีก่อนกระโดด แต่เมื่อกระโดดไปแล้ว จังหวะที่ร่างของนายอับดุลลา กระเด้งที่ความสูง 30 เมตร จู่ ๆ ข้อต่อยึดข้อเท้าก็เกิดหลุดออกจากเชือก ทำให้ร่างนายอับดุลลา ตกลงกระแทกพื้นบริเวณข้างขอบสระน้ำ ตนตกใจมาก รีบเข้าไปช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่นายอับดุลลา ก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา
พร้อมกันนี้ นายมนูญ ยืนยันว่า ทำงานที่นี่มา 6 ปี ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน และอุปกรณ์ชุดนี้ก็เพิ่งเปลี่ยนได้ไม่นาน โดยปกติจะมีการเปลี่ยนทุก 3 เดือนอยู่แล้ว เช่นเดียวกับ นายวีนัส จันทร์วิบูลกุล เจ้าของเวิลด์บันจี้จั๊มพ์ ที่กล่าวว่า ตนและพนักงานรู้สึกเสียใจมาก พร้อมจะรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีการตั้งข้อหาใด ๆ เนื่องจากต้องรอผลการพิสูจน์หลักฐานก่อน คาดว่าจะทราบผลภายใน 30 วัน
ภาพจาก siangtai.com , ครอบครัวข่าว 3
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก