เปิดประวัติ สมยศ สุธางค์กูร อดีตเจ้าพ่อพระราม 9 คาเฟ่ ธุรกิจสถานบันเทิงที่เคยโด่งดังในอดีต ก่อนถูกลอบสังหาร จุดจบชีวิตไม่ต่างจาก บุญเลี้ยง ดาราคาเฟ่
คงไม่มีใครคาดคิดว่า นายสมยศ สุธางค์กูร อดีตเจ้าพ่อพระราม 9 คาเฟ่ จะจบชีวิตลงจากการลงมืออย่างอุกอาจของมือสังหาร ขณะกำลังจะขึ้นรถยนต์ส่วนตัว ที่บริเวณลานจอดรถร้านอาหาร เฮงหูฉลาม ย่านคลองตัน กรุงเทพฯ หลังเสร็จจากรับประทานอาหารค่ำกับภรรยาคู่ชีวิต เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 29 มิถุนายน 2558 ซึ่งข่าวการเสียชีวิตของนายสมยศ สุธางค์กูร อาจถือได้ว่าเป็นการปิดฉากคาเฟ่ไทย อย่างสมบูรณ์แบบเลยก็ว่าได้
สมยศ สุธางค์กูร หรือที่รู้จักกันในชื่อ เสี่ยสมยศ เจ้าพ่อพระราม 9 คาเฟ่ หนึ่งในสถานบันเทิงชื่อดังที่สุดแห่งหนึ่งในยุคเฟื่องฟูของตลกคาเฟ่ โดยพระราม 9 คาเฟ่ ถูกจดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัท พระราม 9 พลาซ่า จำกัด เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2538 ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ประกอบกิจการภัตตาคาร บาร์ ไนต์คลับ จนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ สมยศ สุธางค์กูร ยังมีชื่อในฐานะกรรมการและผู้ถือหุ้นบริษัทเอกชน อีก 2 แห่ง คือ
บริษัท ทักษิณ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2544 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท แจ้งประกอบกิจการภัตตาคาร บาร์ ไนต์คลับ จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม บริษัท พระราม 9 คาราโอเกะ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2538 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท แจ้งประกอบธุรกิจภัตตาคาร บาร์ ไนต์คลับ แต่ปัจจุบันเป็นบริษัทร้าง นายทะเบียนได้ขีดชื่อออกจากทะเบียนแล้วทั้งนี้ ในยุคเฟื่องฟูของตลกคาเฟ่ สมยศ สุธางค์กูร มีคู่ปรับคนสำคัญคือ บุญเลี้ยง อดุลยฤทธิกุล หรือ เฮียบุญเลี้ยง เจ้าของวิลล่าคาเฟ่ และดาราคาเฟ่ ซึ่งในช่วงนั้น มีอยู่หลายครั้งที่ทั้งคู่มีเรื่องขัดแย้งกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแย่งตัวดารา-นักร้องชื่อดัง อาทิ กรณีของ "ไชยา มิตรชัย" หรือ ตลกดังอย่าง "โก๊ะตี๋" โดยเฉพาะเรื่องของไชยา มิตรชัย ที่กลายเป็นข่าวดัง เพราะทั้ง 2 คาเฟ่ ต่างส่งคนไปแย่งกันอุ้มตัวไชยา มิตรชัย ให้มาแสดงที่สถานบันเทิงของตนเอง
โดยทาง สมยศ สุธางค์กูร เคยออกมายอมรับว่า ส่งคนไปอุ้ม ไชยา มิตรชัย จริง และทาง บุญเลี้ยง อดุลยฤทธิกุล ก็ส่งคนไปอุ้มด้วยเช่นกัน แถมคนของทั้ง 2 ฝ่ายยังบังเอิญไปเจอกันเสียด้วย แต่เนื่องจากคนของตนมีเยอะกว่า ทำให้คนของบุญเลี้ยง อดุลยฤทธิกุล ตัดสินใจถอนตัวกลับไป ส่งผลให้คืนนั้น ไชยา มิตรชัย มาแสดงที่พระราม 9 พลาซ่า
แต่ที่ทำเอาสะท้านสะเทือนไปทั้งวงการ ก็เมื่อคราวที่มีข่าวขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับว่า บุญเลี้ยง อดุลยฤทธิกุล ถูกยิงเสียชีวิต ในวันที่ 21 มิถุนายน 2541 ซึ่งในครั้งนั้นตำรวจตั้งปมสงสัยว่า การตายของบุญเลี้ยง อดุลยฤทธิกุล อาจเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในธุรกิจคาเฟ่ และชื่อของ สมยศ สุธางค์กูร ก็ตกเป็นที่จับตามองของสังคมอีกครั้ง แต่ต่อมาคดีเป็นที่สิ้นสุด จบลงที่ บุญเลี้ยง อดุลยฤทธิกุล ตายจากการถูกชิงทรัพย์ระหว่างจะขึ้นไปหาภรรยาน้อย
หลังจาก บุญเลี้ยง อดุลยฤทธิกุล เสียชีวิตลง ทำให้วิลล่า คาเฟ่ ต้องปิดกิจการลงไปด้วย เหลือเพียงพระราม 9 พลาซ่า ของสมยศ สุธางค์กูร ทำให้ สมยศ สุธางค์กูร มีอำนาจต่อพวกคณะตลกเป็นอย่างมากในช่วงเวลานั้น และก็ไม่มีใครรู้ว่าเกิดความขัดแย้งอะไรขึ้นระหว่าง สมยศ สุธางค์กูร กับตลกตระกูลเชิญยิ้ม ที่เคยเป็นตลกคณะดังที่คอยเรียกเสียงหัวเราะบนเวทีพระราม 9 พลาซ่า เพราะจู่ ๆ สมยศ สุธางค์กูร ก็ประกาศห้ามตลกตระกูลเชิญยิ้มขึ้นเวทีพระราม 9 พลาซ่า อีกเด็ดขาด พร้อมยังระบุว่า ตลกคณะใดที่ต้องการขึ้นเวที ก็ห้ามมีนามสกุลเชิญยิ้มต่อท้าย เช่นเดียวกับที่ตลกตระกูลเชิญยิ้มทุกคนก็ตัดสินใจบอยคอตไม่ขึ้นแสดงที่พระราม 9 คาเฟ่ เช่นกัน
ในเวลาต่อมา เมื่อยุคเฟื่องฟูของตลกคาเฟ่หมดไป สมยศ สุธางค์กูร ก็ได้เริ่มผันตัวเข้าสู่เส้นทางการเมือง ด้วยการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 33 เมื่อปี 2548 ซึ่งมีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นหัวหน้าพรรค แต่ภายหลังเลือกตั้ง ปรากฏว่า สมยศ สุธางค์กูร ไม่ได้เป็น ส.ส. จากนั้นเขาก็ห่างหายไปจากพรรค และชื่อของ สมยศ สุธางค์กูร ก็เลือนหายจากสื่อต่าง ๆ จนกระทั่งมีข่าวสมยศถูกยิงเสียชีวิต เมื่อช่วงคืนวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
