Bangkok
WalkTrue ตอน Hey Farang where you go การ์ตูนจี๊ด ๆ สีสันสดใส
ฝีมือนักท่องเที่ยวฝรั่งหนุ่ม แชร์ประสบการณ์และทางหนีทีไล่
เมื่อฝรั่งขึ้นแท็กซี่เมืองไทย มันจริงบาดใจเหลือเกิน
เมืองไทยขึ้นชื่อว่าเป็นดิ นแดนในฝันของนักท่องเที่ยวตะวั นตก
หลาย ๆ คน คนไทยยิ้มแย้ม สบาย ๆ อาหารไทยรสชาติดี ไม่แพง
แถมมีให้เลือกมากมาย สถานที่ท่องเที่ยวก็หลากหลาย น่าตื่นตาตื่นใจทั้งนั้น
นักท่องเที่ยวตาน้ำข้าวมากมายจึ งหลั่งไหลเข้ามา โดยหลาย ๆ คนก็มุ่งเข้ามาท่องเที่ยวในเมื องหลวงอันวุ่นวายอย่างกรุงเทพฯ "โนอาห์" หนุ่มฝรั่งเจ้าของเฟซบุ๊กเพจ Bangkok Walktrue ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เข้ามาสัมผั สเสน่ห์เมืองหลวงของเรา และคงจะสัมผัสได้ลึกซึ้งถึงกึ๋ นที่สุดกับเรื่องแท็กซี่ไทย จนได้เล่าบอกเล่าประสบการณ์แสบ ๆ คัน ๆ และการรับมือกับแท็กซี่ไทยขึ้ นมา
ผ่านการ์ตูนลายเส้นสวย ๆ ในชื่อตอน "HEY FARANG WHERE YOU GO" (เฮ้ ฝรั่ง
แวร์ ยู โก) อ่าวแล้วมันจี๊ดโดนใจจริง ๆ มาดูกันว่ามุมมองฝรั่งต่อแท็กซี่ ไทย จะเหมือนกับที่เราคิดไว้หรื อเปล่า
Bangkok WalkTrue วอล์ค 0.5 ตอน "เฮ้ ! ฝรั่ง !! แวร์ ยู โก ?"
ผมชื่อโนอาห์ เป็นนักท่องเที่ยว มาอยู่ไทยได้สักพักแล้วครับ และคุณก็จะเห็นว่าผมติกแหง็กอยู่บนถนนกับการจราจรตอนเช้าวันจันทร์ในกรุงเทพฯ ไม่ขยับเลยจนเหมือนจะติดอยู่อย่างนี้ไปตลอดกาล แต่ก็โชคดีนะ ที่การนั่งรถในประเทศนี้ไม่เคยทำให้ให้ผมเบื่อได้เลยจริง ๆ...
อย่างแรกเลย พี่แท็กซี่จะยินดีต้อนรับผู้โดยสารมาก ไม่ว่าจะอยู่เลนไหนของถนน พี่แกก็จะพุ่งเข้ามาหาทันทีที่เห็นคุณโบก
"เฮ้ ฝรั่ง จะไปไหนล่ะ" / "เอ่อ ผมโบกคันนู้นครับ ไม่ได้โบกพี่"
และพี่แท็กซี่ก็จะรักพวกเราเหล่
สิ่งควรรู้เกี่ยวกับแท็กซี่ไทย คนขับเอ็นจอยชีวิตในพื้นที่
บ๊ายบายแท็กซี่สีเหลืองหรือดำที
แท็กซี่ไทยไม่มีกระจกกั้นระหว่ างคนขับกับผู้โดยสาร เพราะฉะนั้นคุณอาจโดนชวนคุยยิ งคำถามรัว ๆ "มีแฟนรึยังเนี่ย" "มาจากไหน" "ชอบผู้หญิงอิสานมั้ย" "แล้วกะเทยล่ะ"... จะถามมากขนาดนี้เอาเข้าห้ องสอบสวนเลยก็ได้มั้ง ปล. การแกล้งหลับอาจช่วยคุณได้
แท็กซี่ที่นี่ยังต่างจากแท็กซี่ เมืองใหม่อื่น ๆ ที่จะรู้เส้นทางเป็นอย่างดี ที่นี่บางคนไม่รู้ทางเลย (ไม่รู้ว่าได้ใบอนุญาตแท็กซี่ มาได้ไง) จนคุณต้องบอกทางคนขับเองด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นจงเรียนรู้คำศัพท์พื ้นฐานนี้ไว้ "เลี้ยวซ้าย" "จอดตรงนี้" "เลี้ยวขวา" มันจำเป็นมากเมื่อคุณต้ องบอกทางให้กับคนขับ
หลังจากที่ได้คุยกับกลุ่มเพื่อน ๆ ที่เรียกตัวเองว่า The Revengers of BKK (กลุ่มนี้เป็นนักท่องเที่ยวที่ มาตั้งรกรากในกรุงเทพฯ และก็จะมีมีทติ้งกันทุกวันอาทิ ตย์) เราก็สรุปปัญหาเกี่ยวกับแท็กซี่ ไทยได้ตามที่ผมได้เล่าไปนี่ แหละครับ คนหนึ่งยังบอกว่า ถ้าเป็นนายกฯ จะจัดการพวกแท็กซี่ที่ชอบคิดค่ าโดยสารเองให้หมดเลย
ทริค 1 เปิดโหมดรอผู้โดยสาร นักท่องเที่ยวแทบทุกคนจะมี ประสบการณ์แรกกับแท็กซี่ไทยก็ เพื่อนักจากสนามบินไปโรงแรม สิ่งที่คุณควรรู้คือ คูณต้องจ่ายค่าธรรมเนียมแท็กซี่ สนามบินเพิ่มเติมจากค่าโดยสารอี ก 50 บาท และต้องออกค่าทางด่วนด้วยในกรณี ที่ไม่อยากเจอรถติด คนขับจะต้อนรับขับสู้คุณอย่างดี จนเมื่อขึ้นรถเสร็จสรรพ มิเตอร์ขึ้นตัวเลข 53 บาท และหน้าพี่แท็กซี่คงกระหยิ่มยิ้ มย่องอย่างในกรอบล่างขวานี้
เพื่อป้องกันไม่ให้เงินในกระเป๋ ากระเด็นออกไป คุณควรเช็กให้แน่ใจว่าตัวเลขที่ มิเตอร์เริ่มที่ "35 บาท" เท่านั้น ป.ล. มีข่าวว่าจะมีการปรับมิเตอร์ขึ่ นเร็ว ๆ นี้ แต่ก็ยังไมได้รับการคอนเฟิร์ม เพราะฉะนั้นถ้าคุณไม่แน่ใจเรื่ องเรทราคา ติดต่อเจ้าหน้าที่สนามบินแถวนั้ นดูได้เลย
ทริค 2 คิดราคาไม่พึ่งมิเตอร์ "ไม่มีมิเตอร์นะพ่อหนุ่ม เดี๋ยวคิด 500 นะ โอเค้ ?" ..ถ้าคุณเจอสถานการณ์แบบนี้ ป่วยการจะต่อรองให้พี่แท็กซี่ เปิดมิเตอร์ ลงแล้วโบกคันใหม่ดีกว่า
ทริค 3 ราคาต่อรองแล้ว..แต่จะเปลี่ยน บางทีคุณก็จับพลัดจับผลูไปขึ้ นแท็กซี่ที่ไม่ยอมเปิดมิเตอร์ จะเรียกว่าบังเอิญตกลงราคากั นได้ก็แล้วกัน แต่บางครั้งสภาพการจราจรดูเหมื อนจะทำให้ราคาที่ตกลงไว้แล้ว ถูกกว่าราคาตามมิเตอร์ซะงั้น แล้วพี่แท็กซี่ก็จะดันจำวิธีเปิ ดมิเตอร์ขึ้นมาได้พอดี... ในกรณีนี้ขอให้คุณยืนยันจะจ่ ายตามราคาเดิมต่อไป ถ้าตกลงไม่ได้ ก็เปิดประตูลงรถที่ไฟแดงหน้ าไปเลย
ทริค 4 ไม่ทอนนะครับ ค่าโดยสาร 91 บาท แล้วจ่ายแบงค์ 100 ไป คุณอาจไม่ได้รับเงินทอน
พี่แท็กซี่หลายคน ๆ ว่า เขาไม่มีเศษตังค์ ขอไม่ทอนนะ
ถือว่าให้ทิปผมก็แล้วกัน...
ฉะนั้นจงอย่าจ่ายค่าโดยสารด้ วยแบงค์ใหญ่ พกแบงก์ย่อยและเศษเหรียญไว้บ้าง แต่ถ้าไม่มีจริง ๆ ลองบอกให้เขาขับไปส่งคุณแลกเงิ นที่ร้านค้าใกล้ ๆ ก็ได้ พี่แท็กซี่จะนึกออกว่ามีเศษเงิ นไว้ทอนได้ขึ้นมาทันทีทันใด
ทริค 5 บางทีแท็กซี่ก็แนะนำอยากพาคุ ณไปสถานที่ดี ๆ...จงอย่าลังเลใจที่จะปฏิ เสธนะครับ ขึ้นรถปุ๊บพี่แท็กซี่ชวนคุยปั๊บ ไปแวะร้านอาหารเจ๋ง ๆ มั้ย ร้านนี้เด็ด เดี๋ยวผมพาไป...
ไม่งั้นคุณอาจต้องจ่ายค่ าอาหารอ่วม เพราะแท็กซี่ได้เงินส่วนแบ่ งจากการพานักท่องเที่ยวมาลงที่ ร้านค้านั่นเอง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นร้านอาหาร ร้านเครื่องขายประดับ ร้านนวด
และเทคนิคตุกติกอื่น ๆ เช่นว่า พาคุณขับอ้อมโลก ทั้งที่ขับไปตรง ๆ ก็จะถึงที่หมายอยู่แล้ว
บังคับขอทิป 100 บาท ไม่งั้นไม่เปิดแอร์
สารพัดข้ออ้างที่แท็กซี่ไทยใช้ ปฏิเสธผู้โดยสาร "เดี๋ยวต้องส่งรถแล้ว" "เดี่ยวต้องไปเติมน้ำมัน"
"แถวนั้นรถติด" "ตรงนั้นไกลไป"
และ
อีกนานาสารพัดเหตุผล "ไม่ไปพารากอน" "น้ำมันจะหมด" "รับแต่ฝรั่ง"
"ไม่เอาญี่ปุ่น" "ขับเฉพาะฝั่งธนฯ" ฯลฯ เพราะฉะนั้นในจำนวนแท็กซี่กว่า
150,000 คันในเมืองแห่งนางฟ้านี้ การจะโบกแล้วได้ขึ้นเป็นเรื่ องต้องใช้ดวงมากจริง ๆ
สิ่งที่ควรเช็กเมื่อขึ้นแท็กซี่
2. มีป้ายบอกทะเบียนอยู่ข้างใน รหัสนี้ช่วยคุณได้เมื่อต้ องการร้องเรียนหรือมีปัญหา โทรแจ้งได้ที่ 1584
บางกรณีคุณอาจแก้ปัญหาด้ วยการโทรแจ้งตำรวจ แต่ถ้าไม่มีโทรศัพท์ติดตัว บอกคนขับให้ไปส่งที่โรงแรมหรื อสถานที่สาธารณะ เอากระเป๋าลงจากรถก่อนให้เรี ยบร้อย แล้วค่อยบอกยามให้ช่วยโทรเรี ยกตำรวจอีกที
แต่ถึงจะมีชื่อเสียอย่างที่ ผมได้เล่าไปมากแค่ไหน ก็อย่าเหมารวมว่าแท็กซี่เมื องกรุงเทพฯ จะแย่ไปซะทุกคน ยังมีพี่แท็กซี่ดี ๆ อีกมากมายที่คอยให้บริการผู้ โดยสารอย่างเราด้วยใจนะครับ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Bangkok Walktrue