กปน. ปัดข่าวน้ำหยุดไหลหาก 30 วันฝนไม่ตก ชี้ เป็นการคาดการณ์ แต่ความจริงตอนนี้ฝนเริ่มตกลงมาแล้ว
เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2558 สำนักข่าวรอยเตอร์ส มีรายงานว่า นายธนศักดิ์ วัฒนฐานะ ผู้ว่าการการประปานครหลวง เปิดเผยถึงปริมาณน้ำในปัจจุบันว่า ขณะนี้น้ำใน 3 เขื่อนหลักของไทยมีปริมาณเหลือเพียง 660 ล้านลูกบาศก์เมตรในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา จากปกติในช่วงเดียวกันจะมีน้ำเหลือถึง 8,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ดังนั้นหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม น้ำในเขื่อนจะเหลือพอให้ใช้อีก 30 วันเท่านั้น
นอกจากนี้เนื่องจากไทยใช้น้ำฝนและน้ำในเขื่อนเป็นตัวผลักดันน้ำเค็มกลับลงอ่าวไทย ทำให้หน้าแล้งนี้มีโอกาสที่น้ำเค็มจะรุกคืบขึ้นมายังต้นน้ำ ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีรสกร่อย อีกทั้งน้ำเค็มยังทำลายพืชผลและเป็นอันตรายต่อสถานีสูบน้ำด้วย เนื่องจากไม่มีอุปกรณ์บำบัดน้ำเค็ม
ทั้งนี้ นายธนศักดิ์ จึงขอฝากไปยังประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้สำรองน้ำดื่มไว้ 60 ลิตร เพื่อป้องกันการขาดแคลน พร้อมวอนประชาชนให้ใช้น้ำอย่างประหยัดขึ้น เพราะราคาน้ำที่ถูกและยังคงราคาเดิมไว้ตั้งแต่ปี 2542 แล้ว จึงเป็นเหตุให้ประชาชนไม่คำนึงถึงการประหยัดน้ำ
อย่างไรก็ตาม ทางการประปานครหลวงได้เตรียมการในการเพิ่มกำลังการผลิตและการเก็บกักสำรองน้ำในอนาคต ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า ซึ่งจะมีการลงทุน มูลค่าทั้งสิ้น 4,500 ล้านบาท เพราะขณะนี้น้ำฝนในพื้นที่กรุงเทพฯ นั้นถือว่าเป็นการปล่อยให้ไหลลงทะเลไปอย่างเปล่าประโยชน์
ต่อมา เฟซบุ๊ก การประปานครหลวง กปน. (Metropolitan Waterworks Authority - MWA) มีการเปิดเผยความคืบหน้าเรื่องนี้ว่า จากข่าวที่น้ำประปาจะหยุดไหลภายใน 30 วันกรณีฝนไม่ตก ขอให้ประชาชนอย่าวิตก เพราะเป็นการคาดการณ์เท่านั้น แต่ในความเป็นจริงฝนเริ่มตกลงมาบ้างแล้ว และเป็นไปไม่ได้ที่ทาง กปน. จะหยุดจ่ายน้ำ อาจจะต้องลดปริมาณการผลิตลงเท่านั้น
***หมายเหตุ : อัพเดทข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 20.08 น. วันที่ 7 กรกฎาคม 2558
