ระเบิดราชประสงค์ ให้น้ำหนัก ยูซูฟู เป็นมือกดบึ้มศาลท้าวมหาพรหม หลังขึ้นไปแฝงตัวบนสกายวอล์ก เผยประวัติศึกษาเรียนจบวิศวกรรมศาสตร์ด้านเคมี มหาวิทยาลัยชื่อดังจากจีน
วันที่ 5 กันยายน 2558 พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวความคืบหน้าคดีระเบิดราชประสงค์ว่า จากการเข้าตรวจค้นบ้านพักภายในซอยราษฎร์อุทิศ 34 ย่านมีนบุรี พบว่าบ้านหลังนี้ น.ส.วรรณา เคยไปปรากฏตัว และมีพยานเห็นว่าอุ้มลูกไปที่นั่น อย่างไรก็ตามยังไม่ชัดเจนว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ต้องรอสอบขยายผลก่อน นอกจากนี้พบหลักฐานเป็นตาชั่งขนาดเล็กที่อาจนำไปใช้ตวงสารเคมี โดยหลังจากนี้จะมีการตรวจจุดที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ อาทิ แหล่งฟอกเงิน แต่ต้องดูผลการตรวจสอบสารเคมีที่พบ ว่าจะสามารถเชื่อมโยงไปยังประเด็นอื่นได้หรือไม่
สำหรับของกลางที่ยึดได้จากผู้ต้องหา 2 คนที่ควบคุมตัวไว้ พบธนบัตรแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นของประเทศอะไร ส่วนพาสปอร์ตได้ส่งไปให้สถานทูตประเทศที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ
นอกจากนี้ มีรายงานข่าวว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ไม่พบว่า นายอาเดม คาราดัก หรือ นายบิลาเติร์ก มูฮัมหมัด ได้สัมผัสกับส่วนประกอบของระเบิด จึงคาดว่าน่าจะมีหน้าที่แค่เฝ้าของเท่านั้น ส่วนนายยูซูฟูจากการสอบสวนมีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นผู้ที่กดระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม
ทั้งนี้ ประวัติของนายยูซูฟูนั้น พบว่า เรียนจบด้านวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเคมี จากมหาวิทยาลัยชื่อดังในประเทศจีน มีความเชี่ยวชาญด้านเคมีเป็นอย่างดี ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นคนประกอบระเบิดด้วย โดยในวันเกิดเหตุได้นั่งรถแท็กซี่มาจากย่านมีนบุรีพร้อมกระเป๋าเป้บรรจุระเบิดมาลงหัวลำโพง ก่อนส่งเป้ต่อให้กับชายเสื้อเหลืองย่านหัวลำโพง จากนั้นจึงแยกกันเดินทางมาที่ศาลท้าวมหาพรหม ซึ่งนายยูซูฟูได้แฝงตัวอยู่บนทางเดินสกายวอล์กและเป็นไปได้ว่าจะเป็นผู้กดรีโมทระเบิด หลังจากชายเสื้อเหลืองได้นำกระเป๋าเป้ไปวางที่ศาลท้าวมหาพรหม
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
