สปส.สัญจรมอบสุข
มอบสิทธิผู้ประกันตนทุพพลภาพก่อนปี 38
พ.ร.บ.ใหม่ประกันสังคมดูแลคุณภาพชีวิตตลอดชีพ
สำนักงานประกันสังคม
ชูข่าวดีผู้ประกันตนทุพพลภาพก่อนปี 2538 รับสิทธิภายใต้ พ.ร.บ.ฉบับใหม่ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2558 มีผลบังคับใช้ 20 ต.ค.58 ให้สิทธิลูกจ้างผู้ประกันตนทุพพลภาพก่อน
30 มีนาคม 2538 ได้รับความคุ้มครองตลอดชีพ พร้อมชวนผู้ประกันตนยื่นเอกสารขอรับสิทธิได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวในการเยี่ยมผู้ประกันตน ทุพพลภาพว่า
นับเป็นโอกาสดีที่ พ.ร.บ. (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2558 (ฉบับใหม่) ได้มีการปรับเพิ่มข้อกฎหมายเพื่อดูแลผู้ประกันตนฯ
ได้ตลอดชีวิต เนื่องจากผู้ทุพพลภาพในสังคมถือเป็นประชากรส่วนหนึ่งของประเทศ ซึ่งเมื่อบุคคลเหล่านี้ประสบเหตุจนต้องมีสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์
รัฐจึงต้องให้การคุ้มครองดูแล เพื่อให้มีกำลังใจในการใช้ชีวิตเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนให้ผู้ทุพพลภาพสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ
ไม่ต้องกลายเป็นปัญหา ของสังคม ซึ่งในส่วนนี้กระทรวงแรงงานได้ขับเคลื่อนผ่านการดำเนินงานของสำนักงานประกันสังคม
ที่จะเริ่มกิจกรรมประกันสังคมมอบสุข เพื่อผู้ประกันตนทุพพลภาพทั่วประเทศ
นายโกวิท สัจจวิเศษ รองเลขาธิการ
รักษาการในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม
กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานประกันสังคม (สปส.) จัดกิจกรรมมอบสุขแก่ผู้ประกันตนทุพพลภาพ
ประจำปี 2558 ในรูปแบบกิจกรรมสัญจรลงพื้นที่พบผู้ประกันตนทุพพลภาพที่ได้รับสิทธิก่อนปี
2538 เพื่อเป็นการแจ้งสิทธิและติดตามดูแลชีวิตความเป็นอยู่ภายหลังเจ็บป่วย และขาดสิทธิเนื่องจากปัจจุบันพระราชบัญญัติประกันสังคม
(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2558 (ฉบับใหม่) มีผลบังคับใช้ 20 ตุลาคม 2558
ได้แก้ไขกฎหมายเพื่อขยายความคุ้มครองผู้ทุพพลภาพได้รับสิทธิประโยชน์เท่าเทียมกัน คือ ได้รับการดูแลตลอดชีวิตนั่นเอง
โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ผู้เจ็บป่วยเรื้อรัง หรือผู้ทุพพลภาพ เพิ่ม :
สิทธิประโยชน์กรณีตายแก่ผู้เจ็บป่วยเรื้อรัง / ผู้ทุพพลภาพ แม้ส่งเงินสมทบไม่ครบตามสิทธิ (พ.ร.บ.เดิมไม่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีเสียชีวิต)
ผู้จงใจให้ตนเองได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพ และตาย เพิ่ม : สิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกันตนที่จงใจ ทำให้ตนเองบาดเจ็บ ทุพพลภาพ และตาย
หรือยินยอมให้ผู้อื่นก่อให้เกิดขึ้น (พ.ร.บ.เดิม ไม่ได้รับความคุ้มครอง)
กรณีทุพพลภาพ เพิ่ม :
ผู้ประกันตนซึ่งสูญเสียสมรรถภาพ ไม่ถึงร้อยละ 50 ของร่างกายมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีทุพพลภาพ (พ.ร.บ.เดิม ผู้ประกันตนต้องสูญเสียสมรรถภาพของร่างกายร้อยละ50 ถึงจะมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีทุพพลภาพ)
/สิ่งสำคัญ...
สิ่งสำคัญคือ ความมุ่งหวังให้ผู้ประกันตนทุพพลภาพได้มีโอกาสได้รับสิทธิที่จะคอยดูแล คุณภาพชีวิต และมีเงินทดแทนการขาดรายได้อย่างต่อเนื่อง
ไม่ต้องให้ผู้ทุพพลภาพตกอยู่ในสภาวะขาดรายได้ หรือต้องมีวิถีชีวิตที่ทุกข์ยากเพิ่มมากยิ่งขึ้น
ตลอดจนไม่รู้สึกว่าตนเองกลายเป็นภาระของครอบครัวและสังคมนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม สำนักงานประกันสังคมขอแจ้งผู้ประกันตนทุพพลภาพก่อนวันที่
30 มีนาคม 2538 ที่มีสิทธิตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2558 (ฉบับใหม่) มาแสดงความจำนงเพื่อติดต่อ ขอรับสิทธิเงินทดแทนการขาดรายได้ตลอดชีวิต
โดยยื่นหลักฐาน คือ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมยื่นแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน
2-10 และสำเนาสมุดบัญชีธนาคาร ได้ที่สำนักงานประกันสังคมพื้นที่ ทั้ง
12 แห่ง/ จังหวัด/ สาขา ที่ท่านสะดวก อย่างไรก็ตามในการยื่นขอรับสิทธิฯ ดังกล่าว
ผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพไม่ต้องมีการตรวจสุขภาพใหม่จากแพทย์ผู้ทำการรักษาเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการขอรับสิทธิแต่อย่างใด
หากผู้ประกันตนมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ทั้ง 12
แห่ง/จังหวัด/สาขา/ที่ท่านสะดวก หรือ โทร.1506 (เจ้าหน้าที่ให้บริการตลอด 24
ชั่วโมง)
ข้อมูลผู้ประกันตนทุพพลภาพ
นางวันดี กล่อมฤทธิ์ ผู้ประกันตนทุพพลภาพ
สาเหตุเส้นเลือดสมองตีบ ความดันโลหิตสูง
คุณยายวันดี
เป็นหญิงวัยชราที่มีอารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ปัจจุบันอายุ 79 ปี
ก่อนเจ็บป่วยเคยทำงานที่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
ได้รับเงินเดือน 11,190 บาท เป็นผู้ประกันตนปี 2536 ถึง 31 พฤษภาคม 2537
หักเงินสมทบเดือนละ 49.22 บาท
(ซึ่งเป็นสถานประกอบการที่ได้รับการลดหย่อนส่วนเงินสมทบกรณีเจ็บป่วยคงเหลือในอัตราเงินสมทบร้อยละ
0.44)
สาเหตุของการป่วยและเป็นผู้ทุพพลภาพ
เนื่องจากมีความดันสูง และป่วยด้วยโรคเส้นเลือดสมองตีบ จนล้มหมดสติ
จากอาการป่วยทำให้แขนขาซีกขวาอ่อนแรง ลิ้นแข็งพูดไม่ชัด และล้มถึง 2 ครั้ง
ทุกวันนี้ไม่สามารถทำงานได้ เดินได้แต่ต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุง จำเป็นต้องอาศัยลูกๆช่วยดูแล
การได้มีโอกาสรับสิทธิจากประกันสังคม รู้สึกดีใจมาก
เพราะช่วยให้มีรายได้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และที่สำคัญคือ ไม่เป็นภาระของลูกหลาน
ทำให้ไม่ต้องลำบากใจอีกต่อไป
จาก
พ.ร.บ.ใหม่ประกันสังคม นางวันดี กล่อมฤทธิ์ ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ เดือนละ
5,595 บาท
นายอร่าม ศรีหิน ผู้ประกันตนทุพพลภาพ สาเหตุจากการประสบอุบัติเหตุ
คุณลุงอร่าม
เป็นหนึ่งในผู้ประกันตนทุพพลภาพ เป็นหนุ่มวัยชราที่มีจิตใจแจ่มใส มีจิตสาธารณะ
ปัจจุบันอายุ 60 ปี เคยทำงานที่ บริษัท คอมพรีเฮนสีฟ คาร์โก แมนเนจเม้นท์ จำกัด ได้รับเงินเดือน
5,550 บาท เป็นผู้ประกันตน ปี 2536 ถึง 30 มิถุนายน 2536 หักเงินสมทบเดือนละ 83.25
บาท (ปี 2534 อัตราเงินสมทบร้อยละ 1.5)
คุณลุงอร่ามประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์
เป็นทุพพลภาพตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2536
จากเหตุการณ์ครั้งนั้นส่งผลให้คุณลุงอร่ามเส้นประสาทแขนขาด
แขนซ้ายไม่สามารถใช้งานได้ และตาข้างซ้ายพร่ามัว คุณลุงอร่ามให้ข้อมูลว่า
การใช้ชีวิตในทุกวันนี้ มีรายได้มาจากเบี้ยคนพิการ 800 บาทต่อเดือน
เบี้ยผู้สูงอายุ 600 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ ยังรับจ้างกวาดลานแฟลต ได้ค่าจ้างวันละ
10 บาท และรับจ้างล้างรถให้กับคนในแฟลตได้ค่าจ้างแล้วแต่เจ้าของรถจะให้
ดังนั้นจึงนับเป็นความโชคดี ที่ได้ทราบข่าวว่า
สามารถได้รับสิทธิจากประกันสังคมไปจนตลอดชีวิต เพราะอย่างน้อยๆ
ในยามเจ็บไข้ได้ป่วยจะได้เข้าไปรับการรักษาโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และที่สำคัญ
ยังได้รับเงินชดเชยรายเดือน ที่จะช่วยให้ไม่ต้องลำบากมากนัก
ให้มีชีวิตในแต่ละเดือนที่ดีมากยิ่งขึ้น
จาก
พ.ร.บ.ประกันสังคมใหม่ คุณอร่าม ศรีหิน ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ เดือนละ
2,775 บาท
