หน่วยสืบสวนยืนยัน เหตุระเบิดบนเครื่องบินโซมาเลียเป็นระเบิดฆ่าตัวตาย คาดเหยื่อที่เสียชีวิตเป็นมือระเบิด นำติดมากับรถเข็น ทำทีเป็นผู้โดยสาร ก่อนจุดชนวนระเบิดจนเครื่องบินเป็นรูโบ๋ แรงระเบิดทำให้ชายคนดังกล่าวกระเด็นออกจากเครื่องตกสู่พื้นดินเบื้องล่างในที่สุด
จากกรณีเครื่องบินของสายการบินดาอัลโล แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน D3159 เกิดระเบิดโดยไม่ทราบสาเหตุ และทำให้กัปตันต้องนำเครื่องลงจอดฉุกเฉิน โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และเสียชีวิต 1 ราย อย่างที่เคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น (อ่านข่าว : ระเบิดเครื่องบินโซมาเลียทำผู้โดยสารดิ่งพื้นดับ คาดฝีมือ "อัล-ชาบับ")
ล่าสุด วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2559 เว็บไซต์เดลี่เมล เปิดเผยรายงานว่า หน่วยสืบสวนคดีระเบิดได้ยืนยันแล้วว่า เหตุระเบิดดังกล่าวเป็นฝีมือของการระเบิดฆ่าตัวตาย โดยคาดว่าชายที่เสียชีวิตในเหตุระเบิดคือผู้จุดชนวน และจงใจให้ตนถูกลมกระโชกพัดออกนอกเครื่องบิน ก่อนตกลงมาจากความสูง 14,000 ฟุต และเสียชีวิตที่ทุ่งเกษตรกรรมเบื้องล่าง
จากการสืบสวน พบว่าวัตถุระเบิดถูกลักลอบนำขึ้นมาอย่างดีกับรถเข็นวีลแชร์ของชายคนดังกล่าว ซึ่งทราบชื่อคือ อับดุลลาห์ แอบดิซาลาม บอร์เลห์ วัย 55 ปี ชาวโซมาเลีย เขาจงใจเข็นรถวีลแชร์ไปยังที่นั่งข้างหน้าต่าง ก่อนเกิดเหตุระทึกขวัญดังกล่าวขึ้น
ทั้งนี้ ทางหน่วยสืบสวนเชื่อว่า ผู้อยู่เบื้องหลังการก่อการร้ายครั้งนี้ น่าจะเป็นกลุ่มอัล-ชาบับ ที่ก่อความไม่สงบในประเทศโซมาเลียมาแล้วหลายครั้ง แต่จนถึงเวลานี้ ก็ยังไม่มีการประกาศอ้างความรับผิดชอบใด ๆ จากกลุ่มดังกล่าว หรือจากกลุ่มหัวรุนแรงกลุ่มอื่น ๆ เลย
ด้าน ฮาซซาน โมฮัมเหม็ด นูร์ ชายผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ระทึกขวัญดังกล่าว ได้บอกเล่าประสบการณ์สุดช็อกให้กับทางสื่อมวลชนได้ฟัง หลังจากเห็นทุกอย่างกับตาของตนเอง
เมื่อนาทีก่อนเขายังนั่งอยู่ที่เบาะ แต่อีกไม่กี่อึดใจต่อมาเขาก็หายไปแล้ว แรงระเบิดทำให้เขาถูกลมดูดออกไปจากตัวเครื่อง ผู้โดยสารกรีดร้องดังสนั่นหวั่นไหว ในห้องโดยสารดำทะมึนไปหมดเพราะมีแต่ควันปกคลุม ผมคิดว่ามันต้องเป็นระเบิดก่อการร้ายแน่นอน โชคดีที่กัปตันเก่งพอจะนำเครื่องลงจอดบนพื้นได้อย่างปลอดภัย นี่เป็นประสบการณ์เผชิญหน้ากับระเบิดครั้งแรกของผม และหวังว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้าย นายฮาซซาน เล่าเรื่องราวให้กับสื่อมวลชนได้ฟัง
อย่างไรก็ดี กรมการบินพลเรือนของโซมาเลีย ได้กล่าวว่า เป็นเพราะเที่ยวบินดังกล่าวออกจากสนามบินโมกาดิชูช้าเกินไป ทำให้ตกเป็นเป้าการโจมตีด้วยระเบิดได้ง่ายกว่าเดิม หากกัปตันนำเครื่องออกอย่างตรงเวลาแล้วละก็ เหตุระทึกขวัญดังกล่าวก็ไม่น่าจะเกิดขึ้น
world_id:56b164f24d265a781d8b4584
ภาพจาก Harun Maruf 
