The Bourne Ultimatum

The Bourne Ultimatum

The Bourne Ultimatum

กำหนดฉาย : 9 สิงหาคม 2550
นำแสดง :
          แมตต์ เดม่อน  รับบท  เจสัน บอร์น
          จูเลีย สไตลส์  รับบท  นิคกี้ พาร์สันส์
          เดวิด สเตรทธาร์น  รับบท  โนอาห์ โวเซ่น
          สก็อตต์ เกลนน์  รับบท  เอซร่า เครเมอร์
          แพ็ดดี้ คอนซิดีน  รับบท  ไซม่อน รอสส์
          เอ๊ดการ์ รามิเรซ  รับบท  พาซ
          อัลเบิร์ต ฟินนี่ย์  รับบท  ดร.อัลเบิร์ต เฮิร์สช์
          โจน อัลเลน  รับบท  พาเมล่า แลนดี้
ทีมผู้สร้าง :
          พอล กรีนกราสส์  ผู้กำกับ
          โทนี่ กิลรอย   พล็อตเรื่องและเขียนบทภาพยนตร์
          สก็อตต์ ซี เบิร์นส์  เขียนบท
เว็บไซต์ทางการ

          ในภาพยนตร์ปี 2002 เรื่อง The Bourne Identity เขาพยายามสืบหาว่าตัวเองเป็นใคร ในภาพยนตร์ปี 2004 เรื่อง The Bourne Supremacy เขาออกแก้แค้นคนที่กระทำกับเขา บัดนี้ เขากลับมา และเขาจำทุกสิ่งทุกอย่างได้แล้ว

          แมตต์ เดม่อน กลับมารับบทเจสัน บอร์น มือสังหารที่ผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีในการต่อสู้ให้รู้ดีรู้ชั่วครั้งล่าสุดในภาพยนตร์เรื่อง The Bourne Ultimatum ซึ่งเป็นภาคต่อของภาพยนตร์เรื่อง The Bourne Identity และ The Bourne Supremacy ภาพยนตร์สุดฮิตที่ทำรายได้จากทั่วโลกไปมากกว่า $500 ล้านเหรียญ และทำยอดขายในอเมริกาเหนือไปสูงเกือบๆ 20 ล้านก๊อปปี้นับแต่เปิดตัวในรูปแบบของความบันเทิงภายในบ้าน พอล กรีนกราสส์ ผู้เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ (United 93, The Bourne Supremacy) มากำกับภาพยนตร์ทริลเลอร์แนวจารกรรมสุดตื่นเต้นที่ทำให้คนดูได้เดินทางไปทั่วโลกและติดตามชายคนหนึ่งขณะที่เขาต้องก้าวนำหน้าผู้ต้องการสังหารชีวิตของเขา

          ในโลกของการออกแบบคิวบู๊ ฉากไล่ล่า และพลอตเรื่องที่มีความคดเคี้ยวเลี้ยวลด ภาพยนตร์ชุด Bourne ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับภาพยนตร์แนวนี้ ด้วยโครงสร้างเรื่องที่มีความแปลกใหม่ ซึ่งมอบความสนุกสนานให้กับแฟนๆ ผู้ติดตามภาพยนตร์ชุดนี้ และยังสร้างความตื่นเต้นให้กับคนดูกลุ่มใหม่ The Bourne Ultimatum เต็มไปด้วยจุดหักมุมและเรื่องราวเซอร์ไพรส์ เพราะให้ความสำคัญกับความสามารถที่มีเพิ่มมากขึ้นของเดม่อนและทีมนักแสดงสมทบที่ล้วนแต่เป็นสุดยอดฝีมือระดับคว้ารางวัลในภาพยนตร์เรื่อง The Bourne Ultimatum ผู้กำกับกรีนกราสส์ที่ได้รับคำชมไปทั่วโลก เข้าใจดีว่าคนดูต้องการเรื่องราวการจารกรรมที่มีความเฉลียวฉลาด ที่สมบูรณ์พร้อมด้วยอารมณ์กระชากหัวใจ และฉากแอ็คชั่นที่ทำให้ทุกคนต้องอึ้ง  

          เราพบบอร์นใช้ชีวิตในฐานะชายที่ไร้ชาติหรืออดีต เพราะเคยได้รับการฝึกอย่างหนักซึ่งเขาจำไม่ได้ โดยคนที่เขาไม่รู้ว่าเป็นใคร บอร์นจึงกลายเป็นมนุษย์ซึ่งเป็นอาวุธร้าย และกลายเป็นเป้าหมายที่ซีไอเอตามร่องรอยได้ยากที่สุด นับแต่ถูกช่วยขึ้นมาจากน้ำในทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน นอกชายฝั่งอิตาลีเมื่อหลายปีก่อน บอร์นได้ออกตามหาความจริงว่าเขาเป็นใคร และเพื่อค้นหาตัวคนที่สอนให้เขาฆ่าคน 

          หลังจากมารี คนรักของเขา ตายไปเพราะกระสุนนัดหนึ่งจากมือสังหาร สิ่งที่บอร์นต้องการมีเพียงการแก้แค้น เมื่อแก้แค้นได้สำเร็จ สิ่งที่เขาต้องการก็คือการหายตัวไปตลอดกาลและลืมชีวิตที่โดนขโมยไป แต่เรื่องราวที่ปรากฏเป็นข่าวหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์ของลอนดอนฉบับหนึ่ง ซึ่งนำเสนอการมีตัวตนอยู่ของเขา จบสิ้นความหวังนั้นอย่างสิ้นเชิง และบอร์นพบว่าเขาตกเป็นเป้าหมายขึ้นมาอีกครั้ง 

          บัดนี้ เทรดสโตน โครงการลับสุดยอดที่สร้างสุดยอดมือสังหารผู้นี้ขึ้นมา ได้ถูกล้มล้างไปแล้ว แต่แล้วมันถูกหยิบขึ้นมาริเริ่มใหม่โดยเป็นโครงการที่ชื่อแบล็คไบรเออร์ ของกระทรวงกลาโหม และได้สร้างนักฆ่าที่ผ่านการฝึกฝนรุ่นใหม่ ซึ่งถูกซ่อนตัวให้พ้นจากสายตาประชาชนอเมริกันและคนทั่วโลก สำหรับพวกเขาแล้ว บอร์นคือภัยคุกคามที่มีความสามารถรอบด้านที่มีค่าตัวสูงถึง $30 ล้าน และเป็นคนที่ต้องถูกกำจัด สำหรับบอร์นแล้ว พวกเขาเป็นเพียงตัวเชื่อมโยงกับชีวิตที่เขาพยายามจะลืมให้ได้ 

          บอร์นมาถึงสุดสายปลายทาง ครั้งนี้เขาจะไม่หยุดแค่การได้คำสัญญาปากเปล่าจากอดีตหัวหน้าของเขา หรือไม่แม้กระทั่งจะฆ่าคนที่ออกตามล่าตัวเขาอย่างไม่ยอมหยุดหย่อน เพราะไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว บอร์นจะใช้ทุกสิ่งที่เขาเคยได้รับการฝึกฝนมา และทุกสัญชาตญาณที่พวกนั้นเคยสอนเขาเพื่อตามล่าผู้สร้างเขาขึ้นมา และจัดการปิดบัญชีทั้งหมด

          ความต้องการของเขาพาเขาเดินทางจากมอสโคว์, ปารีส และแมดริด ไปถึงลอนดอนและแทนเจียร์ เขาต้องหลบเลี่ยง หลอกล่อ เอาชนะพวกแบล็คไบรเออร์ เจ้าหน้าที่รัฐ และตำรวจท้องที่ด้วยเล่ห์เหลี่ยมในทุกฝีก้าวที่เดินไปบนเส้นทางนี้ เพื่อตามหาคำตอบของคำถามที่ตามหลอกหลอนเขามาตลอด และการเดินทางของบอร์นจะนำเขาไปยังที่ซึ่งเรื่องทุกอย่างเริ่มต้น และที่ซึ่งมาถึงจุดจบ นั่นก็คือท้องถนนของนครนิวยอร์กซิตี้  

          ที่มาร่วมแสดงกับเดม่อน ก็คือ ทีมนักแสดงสมทบชุดเดิมจูเลีย สไตลส์ (The Omen, ภาพยนตร์ชุด Bourne) รับบทเป็นนิคกี้ พาร์สันส์ เจ้าหน้าที่ผู้มีความขัดแย้งในใจ และโจน อัลเลน ผู้เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้วถึง 3 ครั้ง (The Upside of Anger, The Bourne Supremacy) รับบทเป็นพาเมล่า แลนดี้ ผู้สืบสวนสอบสวนคดีภายในซีไอเอ ส่วนนักแสดงที่ถือว่าเป็นหน้าใหม่ของภาพยนตร์ชุดนี้ 

          รวมถึงเดวิด สแตร็ทธาร์น (Good Night, and Good Luck, Fracture) ในบทโนอาห์ โวเซ่น หัวหน้าโครงการลับแบล็คไบรเออร์, สก็อตต์ เกลนน์ (The Silence of the Lambs, Training Day) รับบทเอซร่า เครเมอร์ ผอ.ซีไอเอ, แพ็ดดี้ คอนซิดีน (Hot Fuzz, In America) รับบทไซม่อน รอสส์ นักข่าวชาวอังกฤษที่พร้อมจะแฉเรื่องของแบล็คไบรเออร์, เอ๊ดการ์ รามิเรซ (Domino, El Don) รับบทพาซ เจ้าหน้าที่ตัวอันตรายที่ติดตามร่องรอยของบอร์นไปติดๆ และอัลเบิร์ต ฟินนี่ย์ ผู้เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้ว 5 ครั้ง (Erin Brockovich, Big Fish) รับบทดร.อัลเบิร์ต เฮิร์สช์ 

          ภาพยนตร์เรื่องนี้เขียนบทโดยโทนี่ กิลรอย (The Bourne Identity, The Bourne Supremacy) และสก็อตต์ ซี เบิร์นส์ (The Half Life of Timofey Berezin) และจอร์จ โนลฟี่ (Ocean

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
The Bourne Ultimatum โพสต์เมื่อ 23 กรกฎาคม 2550 เวลา 00:00:00 5,940 อ่าน
TOP
x close