ผู้ช่วยผู้จัดการ ธ.ก.ส. เบิกความต่อศาล ย้ำรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ใช้จ่ายงบโครงการรับจำนำข้าวเกินวงเงินที่ ครม. อนุมัติ ทำให้รัฐขาดทุน คาดปิดบัญชีปี 2558 ตัวเลขขาดทุนเพิ่มอีกเหตุระบายข้าวได้น้อย ด้านทนายจำเลยขอเลื่อนวันนัดสืบพยานจำเลยนัดแรกเป็นวันที่ 8 กรกฎาคม 2559
เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์ ในคดีโครงการจำนำข้าว นัดที่ 7 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถนนแจ้งวัฒนะว่า อัยการโจทย์ได้ซักถาม นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. พยานฝ่ายโจทก์ โดยนายสุพัฒน์ ระบุเพิ่มเติมในประเด็นยอดวงเงินที่ใช้ในโครงการรับจำนำข้าว รวม 5 ฤดูกาลผลิตว่า พบว่ามีเงินกว่า 9 แสนล้านบาท เกินกรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติไว้ และเมื่อปิดบัญชีปี 2558 คาดว่าจะขาดทุนเพิ่มขึ้น โดยมีข้าวที่ยังเหลือในสต็อกอีก 12 ล้านตัน ซึ่งหากระบายไม่หมดจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกในส่วนของค่าฝากเก็บ ค่าเช่าโกดัง และค่าใช้จ่ายในการรักษาข้าว ส่วนสาเหตุที่ระบายข้าวได้น้อย เนื่องจากราคาขายข้าวเป็นราคาในวันที่ขายตามกลไกตลาด เป็นส่วนต่างจากราคาที่รัฐบาลรับจำนำ ที่มีราคาสูงกว่า
อย่างไรก็ตาม การสืบพยานปากนายสุพัฒน์ ยังไม่เสร็จสิ้นเนื่องจากทนายฝ่ายจำเลยได้แถลงต่อศาลขอตรวจสอบเอกสารที่โจทก์ยื่นคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับพยานปากนี้ และขอให้เลื่อนไปไต่สวนต่อนัดหน้าในวันที่ 13 พฤษภาคม 2559 โดยศาลได้อนุญาต พร้อมอ่านกระบวนการพิจารณาว่าทนายโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายเรียกนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ มาไต่สวนหรือกำชับ หรือมีมาตรการใดตามที่ศาลเห็นสมควร เนื่องจากนายแพทย์วรงค์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อออนไลน์ เกี่ยวกับคดีจำนำข้าวกรณีข้าวถุง โดยจงใจฝืนคำสั่งศาลที่ไม่ให้ชี้นำ ซึ่งศาลพิจารณาแล้วเห็นว่านายแพทย์วรงค์ ต้องมาเป็นพยานในคดีการระบายข้าววันที่ 27 เมษายนนี้ ซึ่งศาลจะกำชับเรื่องการให้สัมภาษณ์ในเรื่องดังกล่าวต่อไป
นอกจากนี้ ทนายจำเลยยังได้ขอเลื่อนนัดสืบพยานจำเลย นัดแรกและนัดที่ 2 ออกไป เนื่องจากต้องใช้เวลาตรวจสอบคำเบิกความพยานโจทก์ ที่ยื่นเพิ่มเติมกว่า 6 หมื่นแผ่น จึงเกรงว่าอาจทำได้ไม่ทันเวลา แต่จะบริหารจัดการพยานให้ไต่สวนเสร็จสิ้นทันภายวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2560 ศาลจึงพิจารณาและกำหนดวันไต่สวนพยานจำเลยนัดแรกเป็นวันที่ 8 กรกฎาคม 2559
