เจ้าของที่ดินเดิมแจ้งที่มา "เกาะนาคาน้อย" บอกตกทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ และได้ขายให้ปู่ภูริ ไปเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ด้านคู่กรณี ท้า ภูริ บริจาคให้เป็นสมบัติสาธารณะ บอกถ้าออกเอกสารสิทธิไม่ได้ก็ไม่ได้ทั้งคู่
วันที่ 26 เมษายน 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเจษฎา ท่อทิพย์ หุ้นส่วนบริษัท ภูเขาหกลูก จำกัด พร้อมด้วย นางเจ๊ะหย้า ตนคลัง อายุ 72 ปี เจ้าของที่ดินรายแรกของเกาะนาคาน้อย ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับความเป็นมาของที่ดินบนเกาะนาคาน้อย หลังเกิดข้อพิพาทเกี่ยวกับเอกสารสิทธิ จนเป็นเหตุให้ นายเจษฎา แจ้งความดำเนินคดีกับ นายภูริ และนายพงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ ดาราและพิธีกรชื่อดังในข้อหาหมิ่นประมาท ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
นางเจ๊ะหย้า กล่าวต่อว่า ส่วนที่ดิน 50 ไร่ที่ขายไปนั้น ลูกสาวของหลวงขจรได้ขายให้กับ นายอาทร พันธุ์ทิพย์ ก่อนที่จะมีการขายต่อให้กับปู่ของนายภูริ หิรัญพฤกษ์ เมื่อประมาณ 40 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นหากไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้ก็ไม่สามารถออกได้ทั้งหมด
ขณะที่นายเจษฎา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในสมัยก่อนที่ดินเกาะนาคาน้อยไม่ได้มีหลักฐานอะไร จนกระทั่งมีการนำออกมาเป็น สค.1 (ใบแจ้งการครอบครองที่ดิน) ซึ่งก็จำไม่ได้เหมือนกันว่ามีการออกตั้งแต่เมื่อใด แต่ออกในช่วงรุ่นของพ่อ ส่วนกรณีที่ทางอดีตที่ดิน อ.ถลาง ไปแจ้งความว่า ตนได้นำหลักฐาน สค.1 ปลอมมาออก นส.3 ก. นั้น ตนก็งงว่าจะเป็นเอกสารปลอมได้อย่างไร เพราะบนเกาะนาคาไม่มีแนวเขตอะไรเลย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สามารถออกเอกสารสิทธิได้ ส่วนที่ดินของทางตระกูลหิรัญพฤกษ์นั้น มีการออก นส.3 (หนังสือรับรองการทำประโยชน์) จำนวน 53 ไร่ แต่เมื่อทางบริษัทภูเขาหกลูก มาออกเอกสารสิทธิบ้างกลับมีปัญหา ดังนั้นหากบริษัทภูเขาหกลูก ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้ ตระกูลหิรัญพฤกษ์ ก็ต้องไม่สามารถออกได้เช่นกัน และหากเพิกถอนสิทธิบริษัทภูเขาหกลูก ก็ต้องเพิกถอนในส่วนของตระกูลหิรัญพฤกษ์ด้วย เพราะการออกเอกสารสิทธิก็ไม่มีที่ไปที่มาเหมือนกัน
นายเจษฎา กล่าวต่อว่า การที่ตนออกมาแถลงข่าวนั้นไม่ได้ต้องการอะไร แต่ต้องการความถูกต้องเพื่อให้คนทั่วไปได้รับรู้ข้อเท็จจริงและที่มาที่ไป ของเกาะนาคาน้อย ไม่ใช่ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกหรือผิดทั้งหมด อย่างไรก็ดี ตนขอยืนยันว่า เอกสารสิทธิ สค.1 ที่นำมาแสดงนั้นได้มาอย่างถูกต้อง ไม่ใช่ของปลอม แต่เพียงจำไม่ได้ว่าออกมาตั้งแต่เมื่อไร โดยตนได้มาจากพ่อ คือ นายหรน ท่อทิพย์ และกรณีที่อดีตที่ดินกลางออกมาปฏิเสธว่า ไม่รู้เรื่องถึงการออกเอกสารสิทธินั้น เป็นไปได้อย่างไร รวมถึงถ้ามีการแจ้งความตน ตนก็จะแจ้งความกลับไป
พร้อมกันนี้ นายเจษฎา ยังกล่าวอีกว่า ตนอยากจะฝากถึงนายภูริว่า หากต้องการเก็บรักษาเกาะนาคาน้อยให้เป็นป่าที่สมบูรณ์จริง ๆ ตนขอท้าให้บริจาคที่ดินแปลงนั้นเป็นป่า ซึ่งตนก็พร้อมที่จะบริจาคด้วยเช่นกัน และหากกรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิในแปลงของตน ตนก็พร้อมที่จะต่อสู้ให้ถึงที่สุด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Pongsuk Hiranprueck
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก