พบสาหร่ายจำนวนมากลอยเกยชายหาดเกาะทะลุ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเก็บตัวอย่างไปตรวจสอบ
วันที่ 23 พฤษภาคม 2559 มีรายงานว่า ที่ชายหาดเกาะทะลุ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้มีสาหร่ายจำนวนมากลอยเข้ามาเกยชายหาดอย่างต่อเนื่อง โดยสาหร่ายได้ลอยขึ้นมาตั้งแต่ช่วงกลางคืนจนถึงเช้า แผ่ปกคลุมเป็นแนวยาวตลอดหาด มีความหนา 2-3 เซนติเมตร สำหรับลักษณะของสาหร่ายดังกล่าวจะมองเห็นเป็นสีดำคล้ำ เมื่อคลี่ดูก็จะพบว่าเป็นเส้นใยสีเขียวอ่อนนุ่มติดกันเป็นจำนวนมาก มีลักษณะบอบบางคล้ายเส้นผม หากถูกแสงแดดสาหร่ายจะแห้งเหนียว ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง
วันที่ 23 พฤษภาคม 2559 มีรายงานว่า ที่ชายหาดเกาะทะลุ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้มีสาหร่ายจำนวนมากลอยเข้ามาเกยชายหาดอย่างต่อเนื่อง โดยสาหร่ายได้ลอยขึ้นมาตั้งแต่ช่วงกลางคืนจนถึงเช้า แผ่ปกคลุมเป็นแนวยาวตลอดหาด มีความหนา 2-3 เซนติเมตร สำหรับลักษณะของสาหร่ายดังกล่าวจะมองเห็นเป็นสีดำคล้ำ เมื่อคลี่ดูก็จะพบว่าเป็นเส้นใยสีเขียวอ่อนนุ่มติดกันเป็นจำนวนมาก มีลักษณะบอบบางคล้ายเส้นผม หากถูกแสงแดดสาหร่ายจะแห้งเหนียว ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง
โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากรทะเลสยาม และทางเกาะทะลุไฮแลนด์ รีสอร์ท ระบุว่า ที่ผ่านมาไม่เคยพบว่ามีสาหร่ายจำนวนมากลอยเข้าที่ชายหาดเกาะทะลุแต่อย่างใด ทั้งนี้ได้แจ้งให้นายโสภณ ทองดี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอ่าวไทยตอนกลาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รับทราบแล้ว เพื่อที่จะนำตัวอย่างสาหร่ายดังกล่าวไปวิเคราะห์ว่าเป็นสาหร่ายชนิดใด และจะมีผลกระทบต่อมนุษย์และสัตว์น้ำหรือไม่
โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากรทะเลสยาม ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าสาหร่ายกลุ่มนี้เป็นสาหร่ายกลุ่มสีเขียวแกมน้ำเงินหรือสาหร่ายไส้ไก่ แต่เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีรายงานว่า ที่หาดอ่าวประจวบคีรีขันธ์ก็พบสาหร่ายลักษณะเดียวกันลอยเกยชายหาดจำนวนมากและส่งกลิ่นเหม็นเช่นเดียวกัน แต่จากการวิเคราะห์ก็ไม่พบว่าเป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์น้ำอย่างไร แต่หากมีปริมาณสาหร่ายจำนวนมากก็จะส่งผลทำให้ออกซิเจนในน้ำทะเลน้อยลง
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการทำความสะอาดสาหร่ายดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว แต่ยังพบว่ามีสาหร่ายลอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าต้องจัดการเก็บทุกวันจนกว่าจะหมดไป
โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากรทะเลสยาม ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าสาหร่ายกลุ่มนี้เป็นสาหร่ายกลุ่มสีเขียวแกมน้ำเงินหรือสาหร่ายไส้ไก่ แต่เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีรายงานว่า ที่หาดอ่าวประจวบคีรีขันธ์ก็พบสาหร่ายลักษณะเดียวกันลอยเกยชายหาดจำนวนมากและส่งกลิ่นเหม็นเช่นเดียวกัน แต่จากการวิเคราะห์ก็ไม่พบว่าเป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์น้ำอย่างไร แต่หากมีปริมาณสาหร่ายจำนวนมากก็จะส่งผลทำให้ออกซิเจนในน้ำทะเลน้อยลง
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการทำความสะอาดสาหร่ายดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว แต่ยังพบว่ามีสาหร่ายลอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าต้องจัดการเก็บทุกวันจนกว่าจะหมดไป