x close

เปิดสำนวนฟ้อง พ.ต.ท. บรรยิน ชี้ทำร้าย เสี่ยชูวงษ์ คอหักก่อนอำพรางคดี


เปิดสำนวนฟ้อง พ.ต.ท. บรรยิน ชี้ทำร้าย เสี่ยชูวงษ์ คอหักก่อนอำพรางคดี

เปิดสำนวนฟ้อง พ.ต.ท. บรรยิน ชี้ทำร้าย เสี่ยชูวงษ์ คอหักก่อนอำพรางคดี

              เปิดสำนวนฟ้อง พ.ต.ท. บรรยิน ตั้งภากรณ์ คดีร่วมฆ่า เสี่ยชูวงษ์ แซ่ตั๊ง เผยลำดับเหตุการณ์ เสี่ยชูวงษ์ ถูกทำร้ายคอหัก ก่อนอำพรางคดี ชี้วางแผนฆ่าเพื่อปิดบังเรื่องปลอมใบโอนหุ้น

            สืบเนื่องจากกรณีที่มีการจับกุม พ.ต.ท. บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีร่วมกันฆ่า นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อดีตนักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ โดยจับกุมได้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งที่เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ขณะอยู่กับ น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล หรือ น้องป้อนข้าว สาวโบรกเกอร์คนสนิท ซึ่งต่อมาศาลได้ให้ประกันตัว พ.ต.ท. บรรยิน ในวงเงิน 2 ล้านบาท พร้อมตั้งเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศนั้น [อ่านข่าว : ศาลให้ประกันตัว บรรยิน วงเงิน 2 ล้าน-เจ้าตัวท้าครอบครัวเสี่ยชูวงษ์สาบาน]
            
            ความคืบหน้าวันที่ 29 มิถุนายน 2559 ผู้สื่อข่าวมีรายงานเปิดสำนวนฟ้องที่พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ใช้ฟ้องดำเนินคดีต่อ พ.ต.ท. บรรยิน ตั้งภากรณ์ ในคดีดังกล่าว โดยพนักงานสอบสวนกองปราบปรามบรรยายฟ้องพฤติการณ์ของผู้ต้องหาว่า ผู้ต้องหาเป็นเพื่อนสนิทกับผู้ตาย (นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง) และลงทุนทำธุรกิจที่ดินด้วยกัน เนื่องจากผู้ตายมีฐานะทางการเงินดี มีหุ้นในบริษัทจำนวนมาก จึงได้สมคบคิดกับ น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล หรือ น้องป้อนข้าว เจ้าหน้าที่การตลาดบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งที่ผู้ตายและพวกมีหุ้นอยู่ ปลอมเอกสารใบโอนหุ้นของผู้ตาย

เปิดสำนวนฟ้อง พ.ต.ท. บรรยิน ชี้ทำร้าย เสี่ยชูวงษ์ คอหักก่อนอำพรางคดี

            โดยผู้ต้องหาสวมรอยอ้างตัวเองกับพนักงานฝ่ายจัดการหลักทรัพย์ว่าเป็นนายชูวงษ์ มายืนยันการโอนหุ้น จนเจ้าหน้าที่หลงเชื่อในกลอุบายของผู้ต้องหา ส่งผลให้ในวันที่ 8 มิถุนายน 2558 มีการโอนหุ้น 3 ตัว มูลค่า 35,050,000 บาท ให้ น.ส.อุรชา ก่อนจะโอนหุ้นให้ น.ส.ศรีธรา พรหมา มารดาของ น.ส.อุรชา อีก ขณะที่ต่อมา วันที่ 22 มิถุนายน 2558 ยังมีการโอนหุ้นของนายชูวงษ์อีก 1 ตัว ให้แก่ น.ส.กัญฐณา ศิวาธนาพล หรือ น้ำตาล จำนวน 9,500,000 หุ้น มูลค่า 228 ล้านบาท

            หลังเกิดเหตุ พนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีกับ ผู้ต้องหา, น.ส.อุรชา, น.ส.ศรีธรา และ น.ส.กัญฐณา ในข้อหาร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม และร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร ซึ่งพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องคดีดังกล่าว ขณะนี้สำนวนอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการ

            ทั้งนี้ผู้ต้องหาทราบดี ว่าช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน 2558 บริษัทหลักทรัพย์จะต้องรายงานการโอนหุ้นให้นายชูวงษ์ได้ทราบตามระเบียบ จึงได้วางแผนสังหารนายชูวงษ์เพื่อไม่ให้ล่วงรู้การกระทำของตน และเพื่อต้องการเอาหุ้นเป็นของตนเอง

เปิดสำนวนฟ้อง พ.ต.ท. บรรยิน ชี้ทำร้าย เสี่ยชูวงษ์ คอหักก่อนอำพรางคดี

            โดยในวันที่เกิดเหตุ ผู้ต้องหาออกอุบายขับรถไปหาผู้ตายที่บริษัท และรับไปสนามกอล์ฟย่านบางนา หลังจากตีกอล์ฟและรับประทานอาหารแล้ว ผู้ต้องหาได้วางแผนออกจากสนามกอล์ฟเป็นคนสุดท้ายโดยรับผู้ตายนั่งโดยสารไปด้วย แล้วจอดรถเพื่อพบกับพรรคพวกที่นัดหมายไว้ ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ก่อนก่อเหตุฆาตกรรมตามแผนที่วางไว้ โดยทำร้ายที่ใบหน้าและศีรษะด้านซ้ายอย่างรุนแรง จนมีบาดแผลหลายแห่ง กระดูกคอหัก ทำให้นายชูวงษ์ถึงแก่ความตาย ก่อนจะนำศพของนายชูวงษ์ไปนั่งที่เบาะด้านหน้าซ้ายของรถโดยไม่คาดเข็มขัดนิรภัย

            จากนั้นผู้ต้องหาขับรถคันเกิดเหตุไปตามเส้นทางที่วางแผนไว้บน ถ.บางนา-ตราด เข้ามาทาง ถ.กาญจนาภิเษก เลี้ยวเข้า ถ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 มุ่งหน้ามาทาง สวนหลวง ร.9 ทิศทางมุ่งหน้าไปยังบ้านพักนายชูวงษ์เพื่อไม่ให้เป็นพิรุธ เมื่อถึงที่เกิดเหตุผู้ต้องหาได้เจตนาขับรถพุ่งชนต้นยูคาลิปตัส ห่างจากขอบทาง 43 เมตร เพื่อสร้างสถานการณ์ว่าเกิดอุบัติเหตุรถชนต้นไม้ หวังอำพรางคดีว่านายชูวงษ์เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ

เปิดสำนวนฟ้อง พ.ต.ท. บรรยิน ชี้ทำร้าย เสี่ยชูวงษ์ คอหักก่อนอำพรางคดี

            อย่างไรก็ตามต่อมาวันที่ 28 มิถุนายน 2559 เวลา 09.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ลานจอดรถ หน้าอาคารทาวน์สแควร์ โรงแรมทอสคาน่า สวีท วัลเล่ย์ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จึงนำส่งพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อจะเอาผลประโยชน์ที่ตนได้กระทำผิดอื่น และเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนให้พ้นคดีอาญา ซึ่งพบว่าในชั้นจับกุมและสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธโดยตลอด

            ด้วยความจำเป็นดังกล่าว พนักงานสอบสวนจึงขออำนาจจากศาลฝากขังผลัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน - 10 กรกฎาคม นี้ เนื่องจากยังต้องสอบปากคำพยานอีก 10 ปาก และรอผลตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหาจากกองประวัติอาชญากรและอื่น ๆ ซึ่งในส่วนท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวนได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต หากได้รับการปล่อยชั่วคราวแล้วเกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี และไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน รวมทั้งก่อเหตุร้ายประการอื่น อีกทั้งการกระทำของผู้ต้องหาเกี่ยวกับการปลอมใบโอนหุ้นและลักเอาหุ้นของผู้ตายไป และวางแผนฆ่าผู้ตายในคดีนี้ เป็นการกระทำผิดอาศัยความใกล้ชิดและผู้ตายไว้วางใจในฐานะเพื่อน โดยการกระทำผิดด้วยความแยบยลสร้างพยานหลักฐานเท็จเพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงในคดี อีกทั้งผู้ต้องหายังมีพฤติกรรมข่มขู่ผู้เสียหายและพยานที่เกี่ยวข้องด้วย

            อย่างไรก็ตาม ต่อมาศาลจังหวัดพระโขนง ได้มีคำสั่งอนุญาตให้ พ.ต.ท. บรรยิน ประกันตัวไปด้วยหลักทรัพย์ 2 ล้านบาท


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดสำนวนฟ้อง พ.ต.ท. บรรยิน ชี้ทำร้าย เสี่ยชูวงษ์ คอหักก่อนอำพรางคดี อัปเดตล่าสุด 14 ธันวาคม 2560 เวลา 11:55:57 39,288 อ่าน
TOP