ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกเรียกค่าเสียหายคดีจำนำข้าว 3.5 หมื่นล้านบาท เหตุจงใจไม่ระงับยับยั้งต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น
วันที่ 24 กันยายน 2559 นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งเรียกค่าเสียหายจำนำข้าว เปิดเผยว่า คณะกรรมการความรับผิดทางแพ่ง ได้พิจารณาสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากมีความประมาทร้ายแรงก่อให้เกิดความเสียหายในการรับจำนำข้าววงเงิน 178,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 2 ฤดูการผลิต คือ ในปี 55/56 และปี 56/57 จึงได้พิจารณาการรับผิดตามกฎหมาย กำหนดให้อดีตนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบเฉพาะตัวแต่เพียงผู้เดียวในสัดส่วนร้อยละ 20 ของมูลค่าความเสียหาย 178,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นวงเงินต้องรับผิดชอบทั้งสิ้น 35,717 ล้านบาท
นายมนัส กล่าวต่อว่า สำหรับการจำนำข้าวในฤดูการผลิต 54/55 วงเงิน 280,000 ล้านบาท ความเสียหายดังกล่าวนั้น ทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ส่งหนังสือท้วงติงว่า จะเกิดความเสียหายจากการรับจำนำข้าวเปลือกแล้ว แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังเดินหน้ารับจำนำข้าว จึงถือว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการจงใจที่ไม่ระงับยับยั้งต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น และไม่ทบทวนโครงการ
ส่วนความเสียหายที่เหลืออยู่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรับไปดำเนินการพิจารณาขั้นต่อไป เมื่อมีการชี้มูลความผิดเพิ่มเติม ซึ่งพบว่ามีหลายบุคคลเกี่ยวข้องกับความผิดดังกล่าว เพราะยังมีอายุความดำเนินดคีเอาผิด 10 ปี นับตั้งแต่ปี 2564
อย่างไรก็ดี หลังจากนี้ ถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับหนังสือแจ้งเรื่องดังกล่าวแล้ว สามารถยื่นต่อศาลปกครองกลาง เพื่อทุเลาคดีหรือเพิกถอนคดี และขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลปกครอง และยื่นให้กรมบังคับคดีดำเนินยึดทรัพย์ในขั้นต่อไป
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก