เล็ก ณพาภรณ์ ทายาทรุ่นที่ 4 โรงแรมปาร์คนายเลิศ พาชมความยิ่งใหญ่ ก่อนปิดตำนาน

เล็ก ณพาภรณ์ ทายาทรุ่นที่ 4 พาชมความยิ่งใหญ่ โรงแรมปาร์คนายเลิศ ก่อนปิดตำนาน 120 ปี พร้อมแนวคิดการทำงาน-การใช้ชีวิต

จากกรณีที่ นางสาวณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร หรือเล็ก กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงแรมปาร์คนายเลิศ จำกัด ได้ทำจดหมายแจ้งถึงพนักงานทุกคน ระบุว่า มีความจำเป็นที่ต้องหยุดดำเนินกิจการโรงแรมปาร์คนายเลิศอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ต้นปี 2560 เป็นต้นไป ซึ่งผู้บริหารจะรับผิดชอบค่าชดเชยตามอัตราที่กฎหมายกำหนด พร้อมโบนัสอีก 1 เดือน สำหรับพนักงานที่มีสิทธิ์ได้รับโบนัสตามกฎของบริษัท และสินน้ำใจจากครอบครัวอีกจำนวนหนึ่งให้กับพนักงาน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น [อ่านข่าว : ปิดตำนานปาร์คนายเลิศ ผู้บริหารส่งจดหมายถึงพนักงาน ขอหยุดกิจการต้นปี 60 คลิก]

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2559 รายการ THE GUEST ตีสนิทคนดัง ทางช่อง 8 ได้เดินทางไปพูดคุยกับนางสาวณพาภรณ์ ทายาทรุ่นที่ 4 ของโรงแรมปาร์คนายเลิศ ถึงเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับอาณาจักรโรงแรมปาร์คนายเลิศ ก่อนประกาศปิดตำนาน ซึ่งนางสาวณพาภรณ์ ได้เล่าเรื่องราวตั้งแต่เริ่มต้นสมัยคุณทวด มาจนถึงยุคปัจจุบัน

ทายาทรุ่นที่ 4 โรงแรมปาร์คนายเลิศ พาชมความยิ่งใหญ่ ก่อนปิดตำนาน 120 ปี

โดยนางสาวณพาภรณ์ ระบุว่า บริษัทนายเลิศนั้นเกิดมาเป็นเวลา 120 ปี เริ่มตั้งแต่ พระยาภักดีนรเศรษฐ (เลิศ เศรษฐบุตร) ซึ่งเริ่มแรกนั้นมีการก่อตั้งรถเมล์ขาว และเป็นผู้นำน้ำแข็งเข้ามาในประเทศไทยเป็นเจ้าแรก จึงได้ฉายาว่า "นายเลิศ ปั้นน้ำเป็นตัว" ก่อนที่จะมีบาร์เปิดใกล้ ๆ กับโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นบาร์แรกที่มี วิสกี้ออนเดอะร็อค

เมื่อมาถึงในรุ่นของตนนั้น คุณยายได้ส่งไปเรียนที่ประเทศอังกฤษซึ่งตนเลือกเรียนการโรงแรมเพราะคิดว่ายังไงก็เรียนจบแน่ ๆ เพราะที่บ้านมีกิจการโรงแรม จนเมื่อฝึกงานก็ได้มาฝึกงานที่โรงแรมของที่บ้านเพราะคิดว่าจะไม่ต้องฝึก แต่คุณยายไม่ยอม คุณยายสอนว่าจะเป็นนายคนก็ต้องล้างส้วมมาก่อน ในการดูแลพนักงานนั้นต้องใส่ใจทุกตำแหน่ง

นางสาวณพาภรณ์ เล่าต่ออีกว่า ครอบครัวของตนนั้นมีความสนิทสนมกับประเทศภูฏาน ซึ่งเมื่อครั้งที่ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก จะเข้าพิธีราชาภิเษกนั้น ทางบ้านของตนก็ได้มีโอกาสดำเนินงานการจัดเลี้ยงอีกด้วย

นอกจากนี้นางสาวณพาภรณ์ ได้พาพิธีกรเดินทางเยี่ยมชมบ้านทรงไทยโบราณที่ครอบครัวอยู่อาศัยจริง ๆ ตั้งแต่สมัยคุณทวด ซึ่งเมื่อรวมเนื้อที่ของพื้นที่บ้านและโรงแรมแล้ว มีเนื้อที่รวม 34 ไร่ ซึ่งในสมัยคุณทวดนั้น ซื้อที่มาตารางวาละ 8 สตางค์ แต่ปัจจุบัน ตารางวาละเกือบ ๆ 2 ล้านบาท นอกจากนี้ก็ยังมีกิจการรถเมล์และกิจการอู่ต่อเรือ ซึ่งไม้ที่เหลือจากการต่อเรือ ก็นำมาสร้างบ้านเรือนไทยหลังนี้นั่นเอง พร้อมพาเหล่าพิธีกรเยี่ยมชมของเก่าที่มีการใช้จริงเมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว และในส่วนของโรงแรมและห้องอาหารของบ้านเรือนไทยนั้น ได้มีโอกาสต้อนรับสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก, สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งสวีเดน, จักรพรรดิญี่ปุ่น และท่านทูตอีกหลายประเทศ

นางสาวณพาภรณ์ เผยว่า ตนรู้สึกมีบุญที่ได้เกิดในตระกูลนี้ และไม่อยากเสียชาติเกิด คือตนอยากเก็บสิ่งที่บรรพบุรุษสร้างไว้ และทำให้งอกเงยต่อไป ก่อนที่จะพาพิธีกรไปชมห้องสั่งการของนางสิน ซึ่งเป็นภรรยาของนายเลิศ ที่จะสั่งการให้คนงานในบ้านทำอาหารเพื่อดูแลนายเลิศ จากนั้นก็พาไปชมห้องน้ำแบบออริจินัล 100 กว่าปีที่แล้ว

เมื่อเสร็จสิ้นจากการเยี่ยมชมบ้านแล้ว นางสาวณพาภรณ์ ได้พาพิธีกรมาชิมอาหารไทย และระบุถึงโครงการร้านอาหารฝรั่งในอนาคต โดยจะใช้ชื่อว่า Lady L แปลว่า ท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ ซึ่งร้านนี้เป็นการทุ่มเทให้คุณยาย เพราะคุณยายชอบการทานอาหารฝรั่งมาก

สำหรับเรื่องหัวใจนั้น นางสาวณพาภรณ์ เผยว่า มีคนแวะเวียนมาเรื่อย ๆ แต่ตนไม่เชื่อในสเปค ไม่อยากกำหนดมาก ตนพยายามดูในจุดดี จุดด้อยและรับได้ก็โอเคแล้ว แต่ละช่วงอายุเราเปลี่ยนไป ความคิดเราก็เปลี่ยนไป ตอนนี้เราบ้างาน เราก็อยากเจอคนที่เป็นผู้ใหญ่ เป็นคนทำงานแต่ไม่ต้องดูแลเราก็ได้เพราะเราดูแลตัวเองได้ และตอนนี้ก็มีแฟนแล้ว

นางสาวณพาภรณ์ เผยว่าในการรับผิดชอบคน มีวิธีจัดการคือ เราต้องเข้าใจตัวเราก่อน ว่าเราพร้อมจะเข้าใจคนอื่นไหม มาตอนนี้ตนพร้อมแล้วที่จะเจอปัญหา ที่จะเจอคน พร้อมที่จะเจอคนที่ถูกที่ถูกทาง ตอนนี้ตนพยายามลดช่องว่างระหว่างเจ้าของและบุคลากร

ทายาทรุ่นที่ 4 โรงแรมปาร์คนายเลิศ พาชมความยิ่งใหญ่ ก่อนปิดตำนาน 120 ปีทายาทรุ่นที่ 4 โรงแรมปาร์คนายเลิศ พาชมความยิ่งใหญ่ ก่อนปิดตำนาน 120 ปี

ติดตามข่าว ปาร์คนายเลิศ ปิดกิจการ ทั้งหมด

ภาพและข้อมูลจาก ThaiCh8