เผยผลชันสูตรพลิกศพถูกฆ่าซุกตู้แช่ คาดเป็นชาวฮังการี ถูกวางยาตาย

          นิติเวช จุฬาฯ แถลงผลชันสูตรพลิกศพถูกชำแหละส่วนแช่แข็งในบ้านแก๊งปลอมพาสปอร์ต สันนิษฐานเป็นชายฮังการี ไม่พบบาดแผลภายนอก คาดถูกวางยาพิษเสียชีวิต

    วันที่ 30 กันยายน 2559 ที่ห้องประชุมมงคลนาวิน ชั้น 10 ตึก สก. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ศ. นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ ผอ.รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ผศ.(พิเศษ), นพ.สุรินทร์ อัศววิทูรทิพย์ ผู้ช่วย ผอ.ด้านภาพลักษณ์องค์กร, รศ. นพ.รื่นเริง ลีลานุกรม รอง ผอ.ฝ่ายบริการ และ ผศ. นพ.อุดมศักดิ์ หุ่นวิจิตร หัวหน้าฝ่ายนิติเวชศาสตร์ รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าการชันสูตรชิ้นส่วนศพถูกชำแหละส่วนแช่แข็งในบ้านแก๊งปลอมพาสปอร์ต
         โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์อุดมศักดิ์ เปิดเผยว่า จากการชันสูตรและวิเคราะห์ชิ้นส่วนศพทั้ง 11 ชิ้น เพื่อหาอัตลักษณ์บุคคล สาเหตุ และพฤติการณ์การตายนั้น ขณะนี้พอจะทราบแล้วว่าผู้ตายเป็นเพศชาย อายุ 40-50 ปี มีส่วนสูงราว 179.5 เซนติเมตร เชื้อชาติยุโรปตะวันออกตอนใต้ สันนิษฐานเบื้องต้นว่าเป็นเชื้อชาติฮังการี ส่วนสาเหตุการตายนั้นเบื้องต้นสันนิษฐานว่าเกิดจากการขาดอากาศหายใจ หรือมีการใช้ยาและสารพิษร่วมด้วย โดยผลการตรวจจะทราบผลภายในสัปดาห์หน้า

          ส่วนสภาพศพไม่พบบาดแผลภายนอก และการตรวจภายในไม่พบการบาดเจ็บ และไม่พบดีเอ็นเอบุคคลอื่นอยู่ในชิ้นส่วนศพ เพราะศพถูกแช่แข็งมาเป็นเวลานาน ทำให้เนื้อเยื่อตาย จึงไม่สามารถระบุได้ว่าใครเป็นคนฆ่าผู้ตาย ขณะที่เวลาเสียชีวิตนั้นก็ยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากศพถูกแช่แข็งมาเป็นเวลานาน แต่ไม่ได้ถูกแช่แข็งมานาน 7-8 ปี ตามที่มีข่าว

         ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวเป็นการประมวลจากการตรวจฟัน และการตรวจชิ้นส่วนศพด้วยการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ทำให้ช่วยจำกัดขอบเขตในการสืบค้นและสอบสวนของตำรวจให้สามารถดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้หากต้องการระบุตัวบุคคลว่าผู้ตายเป็นใครอย่างชัดเจน จะต้องนำข้อมูลการทำฟันไปตรวจเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลของอเมริกาอีกครั้ง โดยชิ้นส่วนศพทั้งหมดจะถูกเก็บรักษาไว้ที่นิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จนกว่าการสืบสวนทางคดีจะแล้วเสร็จและยืนยันตัวบุคคลได้