นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินทางไปพบปะชาวนาที่จังหวัดอุบลราชธานี และศรีสะเกษ โดยยอมรับทั้งน้ำตาว่าไม่ทราบจะชดใช้หนี้จำนำข้าวได้อย่างไร แต่รับปากว่าถ้าได้เป็นรัฐบาลอีกจะขอช่วยชาวนาต่อไป
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2559 นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อพบปะพูดคุยและซื้อข้าวสารจากชาวบ้านที่นำมาวางขายจากหลายอำเภอ และได้พูดคุยสอบถามเรื่องราคาซื้อ-ขายข้าวระหว่างชาวนากับโรงสี ซึ่งได้รับคำตอบว่าราคาข้าวเปลือกในปีนี้ตกต่ำลงมาก โดยโรงสีรับซื้อที่กิโลกรัมละไม่เกิน 7 บาท ตามความชื้นของข้าว ทำให้ชาวนารวมกลุ่มนำข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวไปตากแห้ง แล้วนำไปให้โรงสีในหมู่บ้านสีเป็นข้าวสารนำมาขายกิโลกรัมละ 20 บาท และเมื่อหักต้นทุนแล้วชาวนาจะได้กำไรจากการขายแบบนี้กิโลกรัมละ 5 บาทเท่านั้น
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2559 นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อพบปะพูดคุยและซื้อข้าวสารจากชาวบ้านที่นำมาวางขายจากหลายอำเภอ และได้พูดคุยสอบถามเรื่องราคาซื้อ-ขายข้าวระหว่างชาวนากับโรงสี ซึ่งได้รับคำตอบว่าราคาข้าวเปลือกในปีนี้ตกต่ำลงมาก โดยโรงสีรับซื้อที่กิโลกรัมละไม่เกิน 7 บาท ตามความชื้นของข้าว ทำให้ชาวนารวมกลุ่มนำข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวไปตากแห้ง แล้วนำไปให้โรงสีในหมู่บ้านสีเป็นข้าวสารนำมาขายกิโลกรัมละ 20 บาท และเมื่อหักต้นทุนแล้วชาวนาจะได้กำไรจากการขายแบบนี้กิโลกรัมละ 5 บาทเท่านั้น
นอกจากนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ยังได้แวะไปพบชาวนาเพิ่มเติมที่กลางทุ่งนาขณะกำลังเกี่ยวข้าวที่บ้านโชคอุดม ต.ผือใหญ่ อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ และเมื่อถูกชาวนาถามด้วยความห่วงใย ต่อเรื่องเงินที่รัฐบาล คสช. สั่งให้ต้องชดใช้กว่า 3.5 หมื่นล้านบาท ในโครงการรับจำนำข้าว นางสาวยิ่งลักษณ์ได้ตอบกลับด้วยน้ำตาคลอว่า ก็ไม่รู้จะชดใช้ยังไงหมด เพราะเป็นจำนวนเงินที่เยอะมาก พร้อมรับปากว่า หากมีโอกาสกลับมาเป็นรัฐบาลอีกจะช่วยดันราคาข้าวของชาวนาให้สูงขึ้นอีกครั้ง
ติดตาม ข่าวจำนำข้าว ทั้งหมด คลิก
ติดตามข่าว ราคาข้าว ทั้งหมด คลิก
ติดตามข่าว ราคาข้าว ทั้งหมด คลิก
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @KomkhaoTV24, @BeBe_Porntip, เฟซบุ๊ก ยิ่งลักษณ์ รายวัน โดย ดร.ดำเนิน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
,
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
,