ตำรวจให้ประกันตัว 2 ลุงตัดไม้พะยูงในที่นาตัวเอง ชี้เป็นไม้หวงห้ามไม่สามารถตัดได้ หลังจากนี้เตรียมขึ้นศาลพิจารณาคดี ไม่สามารถยอมความได้ เพราะเป็นคดีอาญา
จากกรณีที่มีหนุ่มรายหนึ่งออกมาโพสต์ประกาศขอความช่วยเหลือ หลังพ่อและน้าโดนจับข้อหาตัดไม้พะยูง ทั้งที่ไม้ต้นนี้ขึ้นในที่ดินตัวเองมายาวนาน ก่อนที่มันจะล้มลงเมื่อหน้าฝนที่ผ่านมา แต่ด้วยความที่เป็นไม้หวงห้ามตามกฎหมาย คุณพ่อจึงไปแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านและอำเภอมาช่วยดู แต่ก็ไม่มีใครสนใจ ก่อนที่จะผ่านมาสักระยะ พ่อกับน้าจึงตัดสินใจจะตัดออกจากนา แต่ก็กลับโดนบุคคลปริศนาไปแจ้งความโดยที่ไม่ดูเหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้น [อ่านข่าว : คุณลุงใจสลาย โดนจับเข้าคุกข้อหาลอบตัดไม้พะยูง ทั้งที่ล้มลงมาในที่นาของตัวเอง คลิก]
ล่าสุดวันที่ 15 ธันวาคม 2559 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถาม นายทองสุก พันชมพู อายุ 80 ปี เป็นหนึ่งในผู้ต้องหา ส่วนอีกรายคือ นายเดิน จันทกล อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นคู่เขยกัน โดยนายทองสุก เล่าว่า ไม้พะยูงดังกล่าว เกิดในพื้นที่นาของตน เมื่อช่วงหน้าฝนที่ผ่านมาก็ถูกพายุพัดจนล้มขวางถนน ซึ่งตนได้แจ้งผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ เมื่อตรวจสอบแล้วก็ไม่มีหน่วยงานใดมาตัดไม้ให้
นายทองสุก เล่าอีกว่า เส้นทางดังกล่าวนั้น ชาวบ้านต้องสัญจรผ่านไป-มา เพื่อนำขยะไปทิ้งที่บ่อขยะของเทศบาล ต.แกดำ จ.มหาสารคาม ทำให้ชาวบ้านต้องขับขี่รถอ้อมทางเข้ามาในที่ของตนเอง จนได้รับความเดือดร้อน และเมื่อตนทำนาเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงได้ชวนนายเดิน ซึ่งเป็นคู่เขย ให้มาช่วยตัดไม้ เพื่อให้สามารถใช้เส้นทางได้เหมือนเดิม แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวในข้อหาลักลอบตัดไม้พะยูง
อย่างไรก็ดี นายทองสุก ระบุว่า ตนได้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแล้ว ก็ไม่มาดำเนินการ อีกทั้งไม้พะยูงก็ผุ ปลวกขึ้น ตนจึงคิดจะตัดไม้ไปทำฟืน ไม่ได้คิดจะนำไปขาย หรือทำการค้า ทั้งนี้คนโบราณเชื่อกันว่าไม้ที่หักชาวบ้านจะไม่นำมาปลูกบ้าน หรือซ่อมแซมบ้าน ต้องเป็นไม้ยืนต้นที่ไปตัดเองเท่านั้น หากเป็นไม้ล้มทำได้เพียงแค่ทำฟืนเท่านั้น เพราะหากนำไปทำบ้าน ก็จะถือว่าไม่เป็นสิริมงคล
ด้าน พ.ต.อ. จุมพล เปรมศิริ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแกดำ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีการลักลอบตัดไม้พะยูง จึงได้ร่วมกับทหารและฝ่ายปกครองออกไปตรวจสอบ เมื่อถึงที่เกิดเหตุก็พบว่าไม้พะยูงถูกตัดเป็นท่อนแล้ว และพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คนกำลังเลื่อยไม้อยู่ จึงได้นำตัวมาสอบสวน และได้ยึดของกลางคือ ไม้พะยูงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.30 เมตร ความยาว 1.9 เมตร จำนวน 1 ท่อน ไม้พะยูงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.20 เมตร ความยาว 2 เมตร จำนวน 1 ท่อน ไม้พะยูงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.10 เมตร ความยาว 3 เมตร จำนวน 1 ท่อน และไม้พะยูงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.20 เมตร ความยาว 1.30 เมตร จำนวน 1 ท่อน และเลื่อยตะเข้ 1 ปื้น
ทั้งนี้ พ.ต.อ. จุมพล ระบุว่า ไม้พะยูงถือเป็นไม้หวงห้าม ไม่สามารถตัดได้ ถึงแม้ว่าอยู่ในที่นาของตนเอง ซึ่งตนได้ทำความเข้าใจกับผู้ต้องหาแล้ว ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ประกันตัวไปในวันที่ 13 ธันวาคม โดยมีนายศักดิ์ ทองภูบาล ใช้ตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านแกดำ เป็นผู้ประกันตัว เบื้องต้น ศาลได้นัดอีกครั้งวันที่ 23 ธันวาคมนี้ ซึ่งในส่วนของเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีอาญา ไม่สามารถยอมความกันได้ โดยจะได้รวบรวมพยานหลักฐาน สอบพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง พร้อมสรุปสำนวนส่งฟ้องศาล เพื่อให้ศาลพิจารณาคดีต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก