ทนายคู่ใจ ชี้ตำรวจที่ทำสำนวนคดี "ครูแพะติดคุกฟรี" ควรได้รับการลงโทษทางอาญา ม.157 ฐานเร่งปิดคดีเพื่อทำผลงาน โดยการปั้นหลักฐานมาปิดสำนวนคดี ด้าน วันชัย สอนศิริ ชี้ควรให้เยียวยาด้านจิตใจมากเป็นพิเศษ เพราะถือว่าเป็นเหยื่อของความบกพร่อง
วันที่ 15 มกราคม 2560 มีรายงานว่า นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายเจ้าของเพจทนายคู่ใจ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีของ "ครูจอมทรัพย์" ที่ตกเป็นแพะรับบาปในคดีขับรถชนคนตายจนติดคุกฟรีเป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน ว่า
ทั้งนี้หากถามว่าจะสามารถเอาผิดกับตำรวจที่ทำสำนวนคดีนี้ได้หรือไม่ ตนคิดว่าถ้าดูจากสำนวนคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ มีโอกาสติดคุกได้ เพราะมีพยานยืนยันว่าตอนเบิกความพูดอีกอย่าง แต่ตำรวจพิมพ์อีกอย่าง ซึ่งส่วนตัวตนคิดว่าทางตำรวจเอง ก็คงจะรอให้เรื่องเงียบตามกระแส
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าพนักงานสอบสวนหรือทนายมาอ่านเอกสารก็น่าจะมองเหมือนกันว่า มีจุดผิดพลาดอยู่ที่ตำรวจปั้นหลักฐานมาปิดสำนวนคดี เพื่อให้ง่ายต่อการลงโทษจำเลยในศาล ทำให้คิดได้ว่าทางตำรวจเองเร่งปิดคดีเพื่อทำผลงาน ซึ่งในส่วนนี้ทางพนักงานสอบสวนควรได้รับโทษทางอาญา มาตรา 157
นอกจากนี้ ด้าน นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เปิดเผยว่า ตนเคยเป็นทนายความให้นางจอมทรัพย์ โดยเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้หลังจากศาลชั้นต้นตัดสินไปแล้ว ประมาณปี 2549 ซึ่งตนก็ได้สอบปากคำและอ่านสำนวนคดี พร้อมทั้งพูดคุยจนเชื่อได้ว่าไม่ได้ก่อเหตุจริง ๆ
1. ทนายของคดีในชั้นต้นไม่รอบคอบ ไม่หาพยานหลักฐานมาต่อสู้คดีอย่างเต็มที่
2. เจ้าหน้าที่ทำงานแบบรูทีน คือไม่มีการพิจารณาให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่จริง ๆ
ทั้งนี้คดีนี้พยานหลักฐานอ่อนมาก สามารถสั่งไม่ฟ้องได้ พยานขัดกันชัดเจน ส่วนอัยการควรต้องใช้ดุลพินิจอ่านสำนวนอย่างละเอียดเพื่อให้ความเป็นธรรม ส่วนของการเยียวยาตนมองว่า นอกจากการเยียวยาที่ได้เงินชดเชยแล้ว ในการเยียวยาทางจิตใจควรให้มากเป็นพิเศษ เพราะถือว่าเป็นเหยื่อของความบกพร่อง รวมถึงเรื่องชื่อเสียงเกียรติยศควรเยียวยาอย่างเต็มที่
ภาพและข้อมูลจาก thaich8, เฟซบุ๊ก ทนายคู่ใจ