ผุสดี แท็กซี่มหาภัย เข้ามอบตัว ขอโทษสังคม เผยทำเพราะเครียด ยันจะเลิกขับรถ

         แท็กซี่หญิงจากคลิปผลักผู้โดยสารลงจากรถ เข้ามอบตัวแล้ว ยกมือขอโทษสังคม ยันทำเพราะเครียด ปฏิเสธไม่เคยลักทรัพย์หรือข่มขู่ รับต่อไปนี้จะเลิกขับแล้ว

         จากกรณีที่โลกออนไลน์วิจารณ์คลิปวิดีโอผู้หญิงคนขับรถแท็กซี่ทะเบียน ทร 2195 สีชมพู มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ขับออกนอกเส้นทาง พร้อมมีปากเสียงกับผู้โดยสาร รวมถึงทำร้ายร่างกายและไล่ให้ลงออกจากรถ ก่อนที่ต่อมาจะถูกออกหมายจับ พร้อมมีการแฉอีกว่าเคยมีผู้โดนสารเคยเจอพฤติกรรมไม่เหมาะสมของโชเฟอร์รายนี้หลายครั้งแล้วนั้น (อ่านข่าว : น่ากลัวมาก ! คนขับแท็กซี่หญิงเลือดเดือด ขับนอกเส้นทาง-ไล่ลง-แถมผลักลงรถ)
         ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 5 เมษายน 2560 นางผุสดี อัญชัญภาติ โชเฟอร์แท็กซี่หญิง ได้เดินทางมาพร้อมทนายความ เข้าพบ พ.ต.อ. อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน เพื่อมอบตัวคดีลักทรัพย์ ในเวลากลางคืน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ย่านมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รวมถึงยังมอบตัวกรณีคลิปล่าสุดที่ไล่ผู้โดยสารลงจากรถอีกด้วย

         นางผุสดี กล่าวว่า กราบขอโทษสังคมและสมาคมแท็กซี่ ที่ทำให้เสื่อมเสีย ยืนยันว่า ปกติตนไม่ใช่ตนอารมณ์ร้าย แต่ถ้าเครียดตนจะโมโห และควบคุมอารมณ์ไม่ได้ โดยที่ผ่านมาตนตั้งใจทำงานโดยสุจริต แต่บางครั้งเกิดจากความเข้าใจผิดจนทำให้ถูกมองว่าเป็นบุคคลอันตราย พร้อมขอโทษผู้โดยสารที่เคยไล่ลงจากรถ รวมถึงที่อาจจะไม่พอใจที่ตนขับออกนอกเส้นทาง แต่ยืนยันว่าที่ผ่านมาตนขออนุญาตผู้โดยสารตลอด 


         นางผุสดี เล่าว่า วันที่เกิดเหตุในคลิป สภาพการจราจรติดขัด ต่อมาผู้โดยสารก็ได้ต่อว่าตนว่าออกนอกเส้นทาง จนมีการโต้เถียงกัน ทำให้ตนบอกว่าจะไม่ไปต่อและให้ลงตรงจุดเกิดเหตุ เพราะไม่อยากโต้เถียง ซึ่งผู้โดยสารบอกว่าไม่จ่ายเพราะส่งไม่ถึง ตนจึงโมโหและจะขับไปเติมแก๊สด้วยการเลี้ยวขวา แต่ก็ถูกต่อว่า พร้อมยังเปิดประตูแล้วตะโกนขอความช่วยเหลือ ตนจึงให้ปิดประตู ซึ่งแม่ผู้โดยสารด้านหลังก็ได้ห้ามปรามและให้จ่ายเงินเพื่อจบเรื่อง แต่ลูกสาวไม่ยอมตามที่เห็นในคลิป ส่วนกรณีที่เหมือนตนผลักผู้โดยสารนั้น ตนพยายามจะปิดประตู เนื่องจากเห็นว่าผู้โดยสารลงจากรถไปแล้ว ซึ่งครั้งนี้เป็นบทเรียนครั้งใหญ่ และต่อไปคงไม่กลับไปขับแท็กซี่อีกแล้ว

           นอกจากนี้ นางผุสดี เผยถึงกรณีเมื่อปี 2556 ที่โดน สน.บางซื่อปรับ 10,000 บาท เหตุใช้มีดขู่ผู้โดยสาร เผยว่า เป็นเพียงมีดคัตเตอร์ที่พกเอาไว้ซ่อมรถเป็นประจำ ซึ่งวันนั้นตนวางไว้ข้างตัวรถ ไม่ได้หยิบมาใช้ แต่ก็จำไม่ได้ว่าได้ข่มขู่ผู้โดยสารหรือไม่ ขณะที่กรณีที่ถูกผู้โดยสารแจ้งว่า ถูกลักทรัพย์เมื่อปี 2557 และ 2558 นั้น ตนไม่ได้ก่อเหตุตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด