x close

แม่บ้านเปิดชีวิตรันทด ถูกกดขี่สารพัด-ใช้งานเยี่ยงทาส ต้องกินข้าวหมาประทังชีวิต

แม่บ้านเปิดชีวิตรันทด ถูกกดขี่สารพัด

           เปิดชีวิตรันทดของแม่บ้านชาวฟิลิปปินส์ ถูกเจ้านายบราซิลกดขี่สารพัด ใช้งานทั้งวันจนไม่ได้พัก ไม่มีข้าวกิน จนต้องแย่งข้าวหมากิน สุดทนจนต้องหอบเสื้อผ้าหลบหนีออกจากขุมนรก

           มาเรีย (นามสมมติ) คือหญิงชาวฟิลิปปินส์ วัย 40 ปี ที่ยอมละทิ้งบ้านเกิด ออกเดินทางไกลไปยังบราซิลเพื่อหาเงินส่งเสียเลี้ยงดูคนที่บ้าน เธอได้งานทำเป็นแม่บ้านให้กับครอบครัวมีฐานะ พวกเขามีอพาร์ตเมนต์ขนาดใหญ่อยู่ในย่านคนรวยของเมืองเซาเปาลู แน่นอนว่ามาเรียดีใจที่มีงานทำแล้ว แต่ทันทีที่มาเรียก้าวเข้าสู่บ้านหลังนี้ เธอก็ถูกใช้งานอย่างหนักราวกับทาส เธอไม่ได้พัก ไม่ได้กิน ไม่ได้นอน ชีวิตของมาเรียเหมือนกับตกนรกทั้งเป็น แต่เธอก็ต้องจำทน เพื่อครอบครัวที่รออยู่ข้างหลัง

           เรื่องราวชีวิตแสนเศร้าของมาเรีย ถูกหยิบยกมาเปิดเผยโดยสำนักข่าวบีบีซี เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2560 โดยมาเรียเป็นผู้หญิงที่อัธยาศัยดี ใจดี เรียบร้อย และยิ้มแย้มอยู่เสมอ เธอเคยทำงานเป็นคนรับใช้ที่ดูไบมานานหลายสิบปี และมองหาชีวิตใหม่ที่ประเทศอื่น เธอตัดสินใจเลือกบราซิล เพราะเธอได้รับการการันตีว่าจะได้เงินเดือนอย่างน้อย 600 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 19,500 บาท แน่นอนว่ามาเรียไม่สามารถคว้ากระเป๋าแล้วเดินทางไปได้เลย เธอต้องทำวีซ่าและเตรียมความพร้อมอีกหลายอย่าง มาเรียต้องติดต่อผ่านเอเจนซี่ ซึ่งมีค่าใช้จ่าย 8,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 260,000 บาท) โดยเป็นค่านายหน้า 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 65,000) และค่าตั๋วเครื่องบินอีก 6,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 195,500 บาท) และมาเรียก็ยอมจ่าย

           ที่บราซิล สมาชิกครอบครัวเจ้านายใหม่ของมาเรีย ประกอบไปด้วย พ่อ แม่ ลูกชายวัยเรียน 3 คน และเด็กทารกอีก 1 คน ในทุก ๆ วัน มาเรียต้องช่วยคุณนายดูแลลูก ๆ หลังจากนั้นก็ทำความสะอาดบ้าน เริ่มจากห้องรับประทานอาหารขนาดใหญ่ ห้องนั่งเล่น ห้องนอนอีก 4 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องมีห้องน้ำในตัว เมื่อเรียบร้อยแล้วก็ต้องพาสุนัขออกไปเดินเล่น ตกกลางคืนก็พาเด็ก ๆ ทุกคนเข้านอน

           คุณนายมักจะอยู่บ้านตลอดเวลา ไม่ค่อยได้ออกไปไหน เธอจะเฝ้าดูการทำงานของมาเรียอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะหยิบจะจับอะไรก็จะคอยจับจ้องอยู่ตลอด มีอยู่วันหนึ่ง คุณนายบ่นว่ามาเรียเช็ดโต๊ะกระจกไม่สะอาด และสั่งให้มาเรียนั่งเช็ดถูโต๊ะตัวนั้นอยู่เป็นชั่วโมง บางครั้งคุณนายจะมานั่งนับว่ามาเรียรีดผ้าไปกี่ตัวแล้ว ซึ่งเธอก็ไม่พอใจเพราะมันน้อยเกินไป จึงไปเอามากองให้มาเรียรีดเพิ่มอีก ซึ่งเธอก็ต้องใช้เวลามากขึ้นอีกหลายชั่วโมง

แม่บ้านเปิดชีวิตรันทด ถูกกดขี่สารพัด

           เวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า มาเรียทำงานจนตัวเป็นเกลียว เธอไม่เคยมีเวลาได้พัก ไม่มีแม้กระทั่งเวลากินข้าว และบางวัน อาหารที่ครอบครัวให้ มันก็น้อยเกินจนไม่พอประทังความหิว ในคืนวันหนึ่ง ขณะที่มาเรียกำลังเตรียมเข้านอน เธอคิดถึงครอบครัวที่บ้านนอกในฟิลิปปินส์ เธอคิดถึงแม่ และคิดถึงลูกสาว 3 คน แทบขาดใจ ลูกสาว 2 คน ของเธอป่วยเป็นโรคหัวใจ ต้องใช้ยาอยู่ตลอด มาเรียคือที่พึ่งคนเดียวของพวกเขา ถ้าไม่มีเธอ ชีวิตทางนั้นก็แย่ และเพราะเหตุนี้ มาเรียจึงต้องกล้ำกลืนฝืนทน กัดฟันสู้ชีวิตต่อไป เธอปูที่นอน และล้มตัวลงนอนทั้งน้ำตา

           มาเรียเคยคิดว่าชีวิตบราซิลคงจะดี เธอเคยใฝ่ฝันจะได้มาทำงานที่นี่ แต่ความจริงแล้วมันกลับไม่เป็นแบบนั้น เธอไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมพวกเขาถึงปฏิบัติกับเธออย่างเลวร้ายเหลือเกิน เธอเคยถามคุณนายว่าทำไมถึงใจร้ายกับเธอเหลือเกิน คุณนายก็แค่ตอบกลับมาว่า "ฉันไม่ชอบแก" ความทุกข์เหล่านี้ทำให้มาเรียคิดอยากจบชีวิตตัวเอง แต่เพราะครอบครัวที่รออยู่ มันทำให้เธอต้องสู้

           "ฉันเคยคิดว่าบราซิลเป็นที่ที่ดีนะ แต่มันไม่ใช่เลย โลกของฉันมีแต่ความทุกข์" มาเรีย กล่าว
           
          ชะตากรรมเลวร้ายแบบนั้นไม่ได้เกิดขึ้นกับมาเรียแค่เพียงคนเดียว โดยในปี 2555 มีคนฟิลิปปินส์ไปทำงานเป็นคนรับใช้ที่บราซิลมากกว่า 250 คน นายจ้างส่วนใหญ่คือครอบครัวชนชั้นกลางที่มีเงิน คนเหล่านี้นิยมจ้างคนฟิลิปปินส์เพราะเป็นงาน และสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ลูก ๆ ของพวกเขาจะได้พี่เลี้ยงที่ช่วยฝึกภาษาไปด้วยในตัว คนรับใช้และแม่บ้านชาวฟิลิปปินส์หลายคนได้เจอกับเจ้านายที่ดีมีเมตตา แต่ก็มีจำนวนมากที่ต้องเป็นทุกข์ ถูกกดขี่สารพัด ถูกใช้งานเยี่ยงทาส และได้รับค่าจ้างที่ไม่เป็นธรรม

           เมื่อมาเรียตื่นขึ้นในเช้าวันต่อมา เธอปวดท้องมาก เนื่องจากแทบไม่มีอาหารอะไรตกถึงท้อง เธอกัดฟันลุกขึ้นไปทำงานต่อโดยที่ท้องหิว จนกระทั่งเวลาผ่านไปนานหลายชั่วโมง มาเรียก็ยังไม่ได้กินข้าว ขณะที่เธอกำลังเตรียมอาหารให้สุนัขของเจ้านายนั้น มาเรียก็แอบแบ่งเอามาไว้ครึ่งหนึ่งเพื่อกิน เพราะเธอไม่มีทางเลือก ไม่มีอะไรให้เธอกินเลย

           ในคืนวันหนึ่ง ครอบครัวเจ้านายออกไปสังสรรค์กันนอกบ้าน มาเรียอยู่ที่อพาร์ตเมนต์คนเดียว เธอเดินไปเช็กโน่นนี่ตามปกติ และพบว่าประตูหน้าถูกล็อก ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติ เนื่องจากตึกแห่งนี้มีความปลอดภัยสูงมาก มาเรียอยู่ที่ห้อง แต่เธอกลับถูกขัง และนี่คือจุดหักเหสำคัญในชีวิตของเธอ มาเรียคิดว่าถึงเวลาที่เธอต้องหนี และเธอก็ลงมือทำจริง ๆ

           ในเช้าวันรุ่งขึ้น มาเรียตื่นนอนก่อนเจ้านาย เธอไปเช็กประตูหน้าและพบว่ามันไม่ได้ล็อก มาเรียจึงเก็บข้าวของใส่กระเป๋าแล้วเดินออกมา มาเรียกังวลมากว่ายามอพาร์ตเมนต์จะผิดสังเกตแล้วแจ้งให้เจ้านายเธอรู้ แต่เธอก็สามารถเดินออกมาได้จนพ้น เธอหันหลังไปมองกล้องวงจรปิด โบกมือให้กล้อง และเดินหนีไป

           มาเรียไม่สามารถไปหางานใหม่ทำได้ทันที เนื่องจากวิซ่าทำงานของเธอมันมีเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรม มันทำให้เธอต้องใช้ชีวิตผูกติดกับเจ้านายเก่า ถ้าอยากได้วีซ่าใหม่ ก็ต้องออกจากบราซิลไป แต่เคราะห์ดีของมาเรีย เธอได้รับการช่วยเหลือจากท่านสาธุคุณเปาโล ปาริซี ผู้ก่อตั้งองค์กรการกุศลช่วยเหลือผู้คนที่ประสบชะตาชีวิตแบบเธอ มาเรียต่อสู้จนได้วีซ่าทำงานใบใหม่ เธอได้งานใหม่ทำ ถึงแม้ว่าจะเป็นงานคนรับใช้เหมือนเดิม อีกทั้งยังต้องเจียดเงินมาใช้หนี้ให้กับเอเจนซี่ แต่มาเรียก็เป็นอิสระ มีความสุข และไม่ต้องทนทุกข์กับเจ้านายใจร้ายอีกต่อไปแล้ว



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แม่บ้านเปิดชีวิตรันทด ถูกกดขี่สารพัด-ใช้งานเยี่ยงทาส ต้องกินข้าวหมาประทังชีวิต อัปเดตล่าสุด 13 ธันวาคม 2560 เวลา 17:28:16 12,004 อ่าน
TOP