วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561 นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ที่เข้าจับกุมนายเปรมชัย ได้เปิดเผยหลังการประชุมวาระพิเศษเกี่ยวกับการติดตามการดำเนินคดีกับนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวก ที่ถูกเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี จับกุมพร้อมของกลาง ซากเสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา เก้ง ปืนล่าสัตว์ และเครื่องกระสุน ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางเราเสียใจ และเป็นสิ่งที่ไม่คาดฝัน ไม่มีใครอยากให้เกิด ต่อไปต้องเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราโดยเฉพาะการเข้า-ออก ส่วนจุดอ่อนของการตรวจคือรถที่เข้ามามีมากส่วนใหญ่ขนสัมภาระมาเยอะ ซึ่งถ้าจะให้ตรวจตราเหมือนอย่างสนามบินก็ทำได้ยาก
ถ้าถามว่าเคยเห็นนายเปรมชัยเข้ามาที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ
ก่อนหน้านี้ไหม ตนไม่เคยเห็น
ถ้าเข้ามาล่าสัตว์ป่าคนที่เข้ามาจะมีลักษณะหลบซ่อน
ซ่อนตัวไม่ให้เจ้าหน้าที่เห็น แต่กรณีนี้มาแบบเปิดเผย แสดงตัว
ตั้งแคมป์พักแรม ตนมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมือนชาวบ้านทั่วไป
คือไม่ยำเกรงกฎหมายบ้านเมือง
ในส่วนของการกระทำความผิดถ้าพบว่ามีการลักลอบ ต้องบอกว่าการจะจับคนกระทำผิดต้องใช้เจ้าหน้าที่ประมาณ 5-10 คน ถึงจะปลอดภัย ทั้งนี้ก่อนจะมีการจับกุมได้มีการตักเตือนก่อนแล้วแต่ทางกลุ่มของนายเปรมชัยบอกว่าขออยู่ที่เดิมซึ่งก็คือจุดเกิดเหตุ โดยให้เหตุผลว่ากลัวจะไม่ปลอดภัยถ้าต้องเดินทางในเวลากลางคืน ซึ่งตนก็แปลกใจว่าไม่กล้าเดินทางแต่ยังกล้าที่จะพักแรมต่อในป่าลึก และไม่ใช่ที่ที่อนุญาต ทำให้เจ้าหน้าที่สงสัยก่อนเดินหาแล้วไปเจอของกลางดังกล่าว
เมื่อสื่อมวลชนถามต่อว่า มีใครเข้ามาเจรจาไหมว่าขอให้ผ่อนเรื่อง นายวิเชียร เผยว่า "เป็นปกติ แต่เขาไม่ได้พูดตรง ๆ ไม่ได้มาเสนอว่าต้องเป็นกี่บาท ๆ เพียงแต่เป็นการหยั่งเชิงดูว่าเราจะมีท่าทีเอนเอียงไปทางเขาหรือไม่ ตอนที่เข้าไปควบคุมตัวก็มีการสอบถามชื่อ ผู้ติดตามก็บอกว่าเขาเป็นเจ้านายใหญ่ของบริษัทนี้ เขาไม่ได้อ้างชื่อผู้ใหญ่จากหน่วยงานทางกรม แค่แนะนำข้อมูลว่าเป็นใครทำอะไรที่ไหน เข้าไม่ได้พูดว่า วีไอพี แต่สื่อให้เราทราบ ตัวคุณเปรมชัยเองก็แนะนำตัว ตรงนี้มองว่าจะเป็นใครก็ช่าง มันเป็นงาน ทำผิดไม่ละเว้นดำเนินการตามกฎหมาย"
"ผมขอเรียนว่าคนทุ่งใหญ่มีศักดิ์ศรี ถึงเราจะอยู่ในป่าไม่ร่ำรวย แต่เราไม่ต้องการเงินจากคุณเปรมชัยแม้แต่บาทเดียว" นายวิเชียร กล่าว
ส่วนเรื่องที่มีคนให้กำลังใจนั้น นายวิเชียร ตอบว่า "ผมดีใจและภูมิใจที่ทุกท่านเป็นห่วงผม แต่ผมมองว่าท่านเป็นห่วงผมคนเดียว แต่คนที่ทำงานไม่ใช่ผมคนเดียว ยังมีคนทุ่งใหญ่อีกกว่า 200 ชีวิต อย่าลืมเขานะครับ"
นอกจากนี้ นายวิเชียร ยังบอกด้วยว่า ขอบคุณที่เป็นห่วง ขอบคุณทุกท่านที่ส่งกำลังใจมาให้ พวกเรารู้แล้วว่าไม่ได้อยู่คนเดียวยังมีคนที่เฝ้าดูและให้กำลังใจพวกเราอยู่
ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ภัทราพร ตั๊นงาม-ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส, เฟซบุ๊ก ภัทรพล ล็อต มณีอ่อน
**อัปเดตข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 15.15 น. ของวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561