สะพานถล่มในอิตาลี ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งสูงกว่า 26 ราย สะเทือนทั้งประเทศ

 
           เกิดเหตุสะพานถล่มในเมืองเจนัว ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมหลักเชื่อมต่อสู่ท่าเรือ พบมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 ราย ทำให้รัฐบาลต้องเร่งตรวจสอบระบบสาธารณูปโภคโดยด่วน

           สะพานไฮเวย์นี้ ได้ถล่มลงมาจากความสูงประมาณ 45 เมตร จนเป็นเหตุให้รถยนต์ประมาณ 30-35 คัน และรถบรรทุกอีก 3 คันตกลงมาด้วย  

           นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า มีเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือจากใต้ซากสะพาน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยกว่า 300 คนทั่วอิตาลี ได้ใช้สุนัขดมกลิ่นและเครื่องมือปีนเพื่อช่วยในการค้นหา ส่วนผู้คนอีกนับร้อยรายได้ถูกอพยพออกนอกพื้นที่ เนื่องจากเกรงว่า ส่วนอื่น ๆ ของสะพานจะพังถล่มลงมาอีก

           อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่สรุปถึงสาเหตุของสะพานถล่มในครั้งนี้ แต่ก็ได้เกิดคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัยของโครงสร้างสะพานตามมา

           นายจุยเซเปป้ คอนเต้ นายกรัฐมนตรีของอิตาลี ได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุด้วยตัวเอง และทางอัยการเมืองเจนัวก็จะมีการสืบสวนถึงสาเหตุสะพานถล่มในครั้งนี้ ว่าเกิดจากความประมาทเลินเล่อและการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่

           นายมัตเตโอ ซัลวินี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของอิตาลี ได้ให้คำมั่นว่า ผู้ที่มีส่วนต่อการถล่มของสะพานในครั้งนี้จะต้องออกมารับผิดชอบ

           ขณะที่ นายอเดรียโน สกิมพิโอนี ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า เขาเองทำงานในโรงงานเก็บขยะของเมือง และเพิ่งเลิกงาน ตอนนั้นเขาได้ยินเสียงดังมากคล้ายกับเสียงระเบิด และเสียงเหล็กกระทบกัน วินาทีต่อจากนั้นทุกคนก็ถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่น

           นายสกิมพิโอนี ออกไปข้างนอก และเริ่มถ่ายทอดสดเหตุการณ์ผ่านทางเฟซบุ๊ก เขาบอกว่า เขาคิดถึงผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์นี้ทันที เขาพยายามกลั้นน้ำตาด้วยความยากลำบาก ในตอนนั้นเราไม่มีความสามารถหรือเครื่องมือใด ๆ ที่จะเข้าช่วยเหลือคนที่ติดใต้ซากสะพาน ซึ่งเพื่อนร่วมงานของนายสกิมพิโอนีก็เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ 2 คน

           ทั้งนี้ สะพานโมแรนดี้ สร้างขึ้นในทศวรรษที่ 1960 ตั้งอยู่บนมอเตอร์เวย์หมายเลข A10 ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญที่ใช้ในการขนส่งสินค้าจากท่าเรือที่สำคัญ 3 แห่งในอิตาลี และยังเป็นจุดเชื่อมต่อกับท่าเรือสำคัญทางใต้ของฝรั่งเศส มีคนที่ใช้สะพานแห่งนี้นับร้อยนับพันคน ท่าเรือแถบนี้เป็นท่าเรือที่รับ-ส่งสินค้านำเข้า ซึ่งเหตุการณ์สะพานถล่มในครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อระบบขนส่งสินค้าของอิตาลี และประชาชนเองก็คาดหวังว่ารัฐบาลจะเร่งหาทางแก้ไขปัญหานี้อย่างเร็วที่สุด