สาวได้รับชีวิตใหม่ จากการปลูกถ่ายใบหน้า จากที่เคยเสียใบหน้าไปจากการพยายามฆ่าตัวตาย ในที่สุดก็ใช้ชีวิตตามปกติได้อีกครั้ง จากใบหน้าที่ได้รับบริจาคมานี้
"หน้าของเธอหายไป" โรเบิร์ต กล่าว และหลังจากที่พบเคธี่ในสภาพนั้น
ทางบ้านของเขาก็รีบเรียกรถพยาบาล
รับตัวเธอเข้ารักษาที่โรงพยาบาลในเมืองคีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ สหรัฐฯ
และราวกับปาฏิหาริย์มีจริง เคธี่รอดชีวิตมาได้
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็ทิ้งบาดแผลอันแสนสาหัสให้แก่เธอ
โครงหน้าที่เสียหายย่อมส่งผลกระทบต่อระบบการทำงาน
ไม่ว่าจะเป็นการกิน การเคี้ยว การพูด หรือแม้แต่การหายใจ
ล้วนได้รับผลกระทบ แต่สิ่งที่หนักหนาที่สุดก็คือผลกระทบด้านจิตใจ
โดยเคธี่ได้เผยกับ National Geographic
ซึ่งตามติดเส้นทางการเยียวยาของเธอว่า "ฉันไม่เคยคิดจะทำแบบนั้นมาก่อน
ฉันรู้สึกผิดเหลือเกินที่ทำให้พ่อแม่ต้องจมอยู่กับความเจ็บปวดแบบนี้
มันเป็นความรู้สึกที่เลวร้ายมาก"
หลังจากการผ่าตัดมาถึง 22 ครั้ง และอยู่ในรายชื่อผู้รอรับการบริจาคมานานถึง 3 ปี ในที่สุดเคธี่ก็ได้พบผู้บริจาคที่อวัยวะมีความเข้ากันได้ นั่นคือ แอนเดรีย สไนเดอร์ หญิงวัย 31 ปี ที่เพิ่งเสียชีวิตได้ไม่นาน ก่อนที่ยายของแอนเดรียจะตัดสินใจบริจาคใบหน้าของหลานสาว เพื่อมอบชีวิตใหม่ให้แก่เคธี่
การผ่าตัดประสบความสำเร็จไปด้วยดี
เคธี่นับเป็นผู้ป่วยที่เข้ารับการปลูกถ่ายใบหน้าครั้งที่ 3
ของคลินิกแห่งนี้ และเป็นคนที่ 40 ของโลก
นับจากการปลูกถ่ายใบหน้าเคสแรกประสบความสำเร็จในปี 2553
โดยเคธี่มีแผนจะเริ่มเรียนระดับมหาวิทยาลัยผ่านช่องทางออนไลน์
ก่อนจะเดินหน้าเป็นผู้ให้คำปรึกษาและพูดสร้างแรงบันดาลใจ
เพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับผลที่ตามมาจากการฆ่าตัวตาย
รวมถึงต่อต้านการกระทำเพื่อจบชีวิตตัวเองต่อไป
"มีคนมากมายที่ช่วยฉันเอาไว้ ตอนนี้ฉันอยากจะช่วยเหลือคนอื่น ๆ ต่อไปเช่นกันค่ะ" เคธี่ กล่าว
หน้าของ เคธี่ ก่อนการบาดเจ็บ ภาพจาก Cleveland Clinic
เคธี่ สตับเบิลฟิลด์ คือหญิงสาวชาวอเมริกันคนหนึ่งที่เคยมีชีวิตปกติเช่นเดียวกับวัยรุ่นคนอื่น ๆ
เธอได้ไปโรงเรียน มีเพื่อนฝูง สนุกกับชีวิต และได้มีความรัก
แต่โลกทั้งใบของเคธี่มีอันต้องถล่มลงตรงหน้า
เมื่อเธอจับได้ว่าแฟนหนุ่มทรยศความเชื่อใจไปกิ๊กกับสาวใหม่
และความเจ็บปวดที่ต้องเผชิญก็ทำให้เคธี่เลือกจะทำบางสิ่ง
ที่ทำให้เธอต้องนึกเสียใจอย่างถึงที่สุด... นั่นก็คือการฆ่าตัวตาย
ในวันหนึ่งของเดือนมีนาคม
2557 เคธี่วัย 18 ปี ที่กำลังจมอยู่กับความผิดหวัง
ได้หยิบปืนล่าสัตว์ขึ้นมาจ่อยิงเข้าไปกลางใบหน้าของตัวเอง เธอหวังว่ากระสุน
.308 ที่ทะลวงผ่านหน้าจะทำให้เธอจบชีวิตลง แต่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น
เคธี่ยังคงมีลมหายใจอยู่ จนกระทั่ง โรเบิร์ต
พี่ชายของเธอ เดินมาพบน้องสาวในสภาพอาบเลือด
หน้าของ เคธี่ ก่อนการบาดเจ็บ ภาพจาก Cleveland Clinic
จากรายงานของเว็บไซต์นิวยอร์กโพสต์
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2561 เผยว่า
ใบหน้าของเคธี่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก เธอเสียทั้งหน้าผาก จมูก
โพรงไซนัส มุมปากเบี้ยวไป ขากรรไกรและโครงหน้าล้วนเสียหาย
แม้ดวงตาของเธอยังอยู่ แต่มันก็บิดเบี้ยวไปจากเดิมอยู่มาก
ภาพจาก Cleveland Clinic
เพื่อที่จะรักษาอาการของเธอ
เคธี่ต้องเข้ารับการผ่าตัดหลายต่อหลายครั้ง
และในที่สุดศัลยแพทย์ก็ได้แนะนำครอบครัวของเคธี่ให้เธอได้เข้ารับการปลูกถ่ายใบหน้า
ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ครอบครัวของเธอไม่เคยรู้จักมาก่อน
แต่มันก็เป็นความหวังของพวกเขารวมถึงเคธี่ ที่จะได้กลับมามีใบหน้าอีกครั้ง
ภาพจาก Cleveland Clinic
หลังจากการผ่าตัดมาถึง 22 ครั้ง และอยู่ในรายชื่อผู้รอรับการบริจาคมานานถึง 3 ปี ในที่สุดเคธี่ก็ได้พบผู้บริจาคที่อวัยวะมีความเข้ากันได้ นั่นคือ แอนเดรีย สไนเดอร์ หญิงวัย 31 ปี ที่เพิ่งเสียชีวิตได้ไม่นาน ก่อนที่ยายของแอนเดรียจะตัดสินใจบริจาคใบหน้าของหลานสาว เพื่อมอบชีวิตใหม่ให้แก่เคธี่
เพื่อที่จะมอบโอกาสครั้งใหม่แก่หญิงสาว
ในเดือนพฤษภาคม 2560 ทีมศัลยแพทย์จากคีฟแลนด์ คลินิก จึงใช้เครื่องสร้างแบบ
3 มิติ มาทำโครงสร้างขากรรไกรแก่เคธี่ โดยใช้ต้นแบบจากพี่สาวของเธอ
นอกจากนี้พวกเขายังระดมทีมศัลยแพทย์ถึง 11 คน
เพื่อช่วยกันทำการผ่าตัดปลูกถ่ายใบหน้า รวมถึงสร้างระบบการทำงานต่าง ๆ
เช่น การเคี้ยว การกลืน และการหายใจขึ้นใหม่
ซึ่งเป็นกระบวนการที่มีความซับซ้อนและกินเวลาในการผ่าตัดทั้งหมดถึง 31
ชั่วโมง
ภาพจาก Cleveland Clinic
"ในตอนนี้ฉันสามารถสัมผัสใบหน้าของตัวเองได้แล้ว
มันน่าอัศจรรย์เหลือเกิน" เคธี่ กล่าว
และแม้ว่าหลังผ่าตัดเธอจะยังมีปัญหาติดขัดในเรื่องการพูด
อีกทั้งยังต้องผ่านพ้นกระบวนการรักษาอีกหลายขั้นตอนจากนี้
แต่อย่างน้อยเธอก็ได้รับใบหน้าใหม่
และโอกาสใหม่ในการใช้ชีวิตเช่นคนปกติทั่วไปแก่เธออีกครั้ง
"มีคนมากมายที่ช่วยฉันเอาไว้ ตอนนี้ฉันอยากจะช่วยเหลือคนอื่น ๆ ต่อไปเช่นกันค่ะ" เคธี่ กล่าว
หน้าของ เคธี่ หลังรับการปลูกถ่ายใบหน้า ภาพจาก Cleveland Clinic