อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ เผยอยู่ระหว่างพิจารณาส่งตัวนักบอลบาห์เรนกลับประเทศ รอนายกฯ ตัดสินใจลำดับสุดท้าย
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นายชัชชม อรรฆภิญญ์ อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่คุมตัวนายฮาคีม อัล-อาไรบี นักฟุตบอลบาห์เรน อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาหมายจับแดงของตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล ฐานทำลายทรัพย์สินของประเทศบาห์เรน ในความผิดตามกฎหมายของประเทศบาห์เรน ว่า ขณะนี้ทางอัยการได้รับคำร้องจากประเทศบาห์เรน ในการขอให้ส่งตัวนายฮาคีมเป็นผู้ร้ายข้ามแดนแล้ว โดยอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะเข้าหลักเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน ของประเทศไทยหรือไม่ หากเห็นว่าเข้าหลักเกณฑ์ที่จะส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปให้บาห์เรน จะต้องยื่นเรื่องภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งให้ฝากขัง แต่ถ้าพิจารณาแล้วว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ก็จะไม่ยื่นคำร้อง เมื่อครบกำหนดฝากขัง 60 วัน ศาลก็จะต้องปล่อย หรืออาจจะยื่นคำร้องต่อศาลว่าทางอัยการพิจารณาแล้วไม่เข้าหลักเกณฑ์ ศาลก็จะปล่อยตัวนายฮาคีมเป็นอิสระ
ส่วนกรณีที่นางนะคา เซไตฮ์ ภรรยานายฮาคีม ได้ส่งผู้รับมอบอำนาจยื่นหนังสือต่อ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลไทยส่งตัวนายฮาคีมไปยังประเทศออสเตรเลีย ที่ได้รับสถานะผู้ลี้ภัย โดยอ้างหลักมนุษยธรรม และกฎหมายระหว่างประเทศ ที่ประเทศไทยมีพันธกรณีร่วมอยู่ด้วยนั้น จะสามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งสรุปออกมาได้ว่า หากอัยการมีการยื่นคำร้องต่อศาลไปแล้ว แต่ฝ่ายบริหารโดยนายกรัฐมนตรีมีความเห็นว่าไม่ควรส่งนายฮาคีมเป็นผู้ร้ายข้ามแดนตามคำร้องขอของประเทศบาห์เรน อัยการก็จะต้องถอนคำร้องขอต่อศาลดังกล่าวออกมา นอกจากนี้ ฝ่ายบริหารก็ยังมีอำนาจที่จะไม่ส่งไปยังประเทศที่ร้องขอไว้ได้ เพราะเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดนมีประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอยู่ด้วย
ด้าน พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. กล่าวว่า การดำเนินการเรายึดหลักมาตรฐานสากลที่ตำรวจทั่วโลกใช้เหมือนกัน หลังเดินทางเข้าไทย สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองใช้อำนาจ ตม. คุมตัว จากนั้นขออำนาจศาลคุมตัวระยะเวลาหนึ่ง ต่อมาอินเตอร์โพลยกเลิกการบันทึกหมายจับในระบบ แต่รัฐบาลบาห์เรนส่งหมายจับบุคคลดังกล่าวผ่านกระทรวงการต่างประเทศของไทย เมื่อเป็นเช่นนี้เป็นกระบวนการสากลของโลกเข้าสู่กระบวนการศาล เพราะฉะนั้นในส่วน ตม. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานอัยการสูงสุด ดำเนินการส่งหมายจับของประเทศบาห์เรนขึ้นสู่ศาล
ศาลอาญาอนุมัติหมายจับผู้ร้ายข้ามแดน
เราจึงส่งนายฮาคีมให้ศาลควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำตามหลักสากลทั่วโลก
เป็นดุลพินิจศาลไต่สวนพิจารณา นายฮาคีมมีสิทธิ์อุทธรณ์
เป็นอำนาจการพิจารณาของศาลอาญาไทยว่าจะส่งให้ประเทศใด
ทางการไทยดำเนินการตามขั้นตอนที่เป็นหลักสากลทุกอย่าง ตั้งแต่การควบคุมตัวตามหมายจับระหว่างเดินทางเข้าประเทศ ไปจนถึงขั้นตอนการพิจารณาจากศาลอาญาไทย ที่อนุมัติหมายจับคนร้ายข้ามแดน นายฮาคีมยังสามารถใช้สิทธิ์ขอลี้ภัยได้ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างไต่สวนของศาลว่าจะส่งตัวนายฮาคีมไปประเทศออสเตรเลียหรือบาห์เรน ยืนยันว่ากรณีนี้แตกต่างจากการขอลี้ภัยของ น.ส.ราฮาฟ โมฮัมเหม็ด ชาวซาอุดีอาระเบีย ที่ไม่มีหมายจับ
ส่วนกรณีทางการออสเตรเลีย หรือสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (ฟีฟ่า) แสดงความไม่เห็นด้วยกับทางการไทย และเรียกร้องให้ส่งตัวนายฮาคีมไปประเทศออสเตรเลีย กรณีนี้ไม่ใช่การแทรกแซง แต่มองว่าเป็นข้อเรียกร้องจากส่วนต่าง ๆ ต้องส่งความเห็นเข้าสู่การพิจารณาในกระบวนการยุติธรรม ย้ำว่าไทยดำเนินการทุกอย่างตามหลักสิทธิมนุษยชนและกฎหมาย และประสานพูดคุยกับทูตประเทศออสเตรเลียและบาห์เรนประจำประเทศไทยอย่างใกล้ชิด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นายชัชชม อรรฆภิญญ์ อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่คุมตัวนายฮาคีม อัล-อาไรบี นักฟุตบอลบาห์เรน อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาหมายจับแดงของตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล ฐานทำลายทรัพย์สินของประเทศบาห์เรน ในความผิดตามกฎหมายของประเทศบาห์เรน ว่า ขณะนี้ทางอัยการได้รับคำร้องจากประเทศบาห์เรน ในการขอให้ส่งตัวนายฮาคีมเป็นผู้ร้ายข้ามแดนแล้ว โดยอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะเข้าหลักเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน ของประเทศไทยหรือไม่ หากเห็นว่าเข้าหลักเกณฑ์ที่จะส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปให้บาห์เรน จะต้องยื่นเรื่องภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งให้ฝากขัง แต่ถ้าพิจารณาแล้วว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ก็จะไม่ยื่นคำร้อง เมื่อครบกำหนดฝากขัง 60 วัน ศาลก็จะต้องปล่อย หรืออาจจะยื่นคำร้องต่อศาลว่าทางอัยการพิจารณาแล้วไม่เข้าหลักเกณฑ์ ศาลก็จะปล่อยตัวนายฮาคีมเป็นอิสระ
ส่วนกรณีที่นางนะคา เซไตฮ์ ภรรยานายฮาคีม ได้ส่งผู้รับมอบอำนาจยื่นหนังสือต่อ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลไทยส่งตัวนายฮาคีมไปยังประเทศออสเตรเลีย ที่ได้รับสถานะผู้ลี้ภัย โดยอ้างหลักมนุษยธรรม และกฎหมายระหว่างประเทศ ที่ประเทศไทยมีพันธกรณีร่วมอยู่ด้วยนั้น จะสามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งสรุปออกมาได้ว่า หากอัยการมีการยื่นคำร้องต่อศาลไปแล้ว แต่ฝ่ายบริหารโดยนายกรัฐมนตรีมีความเห็นว่าไม่ควรส่งนายฮาคีมเป็นผู้ร้ายข้ามแดนตามคำร้องขอของประเทศบาห์เรน อัยการก็จะต้องถอนคำร้องขอต่อศาลดังกล่าวออกมา นอกจากนี้ ฝ่ายบริหารก็ยังมีอำนาจที่จะไม่ส่งไปยังประเทศที่ร้องขอไว้ได้ เพราะเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดนมีประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอยู่ด้วย
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ทางการไทยดำเนินการตามขั้นตอนที่เป็นหลักสากลทุกอย่าง ตั้งแต่การควบคุมตัวตามหมายจับระหว่างเดินทางเข้าประเทศ ไปจนถึงขั้นตอนการพิจารณาจากศาลอาญาไทย ที่อนุมัติหมายจับคนร้ายข้ามแดน นายฮาคีมยังสามารถใช้สิทธิ์ขอลี้ภัยได้ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างไต่สวนของศาลว่าจะส่งตัวนายฮาคีมไปประเทศออสเตรเลียหรือบาห์เรน ยืนยันว่ากรณีนี้แตกต่างจากการขอลี้ภัยของ น.ส.ราฮาฟ โมฮัมเหม็ด ชาวซาอุดีอาระเบีย ที่ไม่มีหมายจับ
ส่วนกรณีทางการออสเตรเลีย หรือสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (ฟีฟ่า) แสดงความไม่เห็นด้วยกับทางการไทย และเรียกร้องให้ส่งตัวนายฮาคีมไปประเทศออสเตรเลีย กรณีนี้ไม่ใช่การแทรกแซง แต่มองว่าเป็นข้อเรียกร้องจากส่วนต่าง ๆ ต้องส่งความเห็นเข้าสู่การพิจารณาในกระบวนการยุติธรรม ย้ำว่าไทยดำเนินการทุกอย่างตามหลักสิทธิมนุษยชนและกฎหมาย และประสานพูดคุยกับทูตประเทศออสเตรเลียและบาห์เรนประจำประเทศไทยอย่างใกล้ชิด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก