x close

กรมอุทยานฯ แจงเสือตาย 86 ตัว เพราะหัดสุนัข - หลวงตาจันทร์ สมเพช เลี้ยงไม่ไหวให้ส่งคืน

          กรมอุทยานฯ แถลง เสือของกลาง วัดป่าหลวงตาบัว ตาย 86 ตัว จากโรคหัดสุนัข ชี้อ่อนแอเหตุผสมพันธุ์กันเอง หลวงตาจันทร์ สมเพชหน่วยงาน เลี้ยงไม่ไหวให้ส่งกลับวัด

          จากกรณี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ยึดเสือโคร่ง 147 ตัว จากวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน หรือ วัดเสือ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี และนำไปเลี้ยงดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง และสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน จ.ราชบุรี เมื่อปี 2559 แต่ปรากฏว่าเสือทยอยตายไปแล้วรวม 86 ตัวนั้น

อ่านข่าว : เสือโครงยึดจากวัดป่าหลวงตาบัว ตายกว่า 80 ตัว จากโรคอัมพาตลิ้นกล่องเสียง

          เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 16 กันยายน 2562 ข่าวช่องวัน รายงานว่า นายประกิต วงศ์ศรีวัฒนกุล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช แถลงข่าวว่า เมื่อปี 2544 เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ได้เข้าตรวจยึดเสือโคร่งภายในสำนักสงฆ์หลวงตาบัว จำนวน 6 ตัว แต่เสือโคร่งได้มีการขยายพันธุ์เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 147 ตัว ต่อมาปี 2559 ได้เคลื่อนย้ายเสือไปที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง 85 ตัว และสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน 62 ตัว ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ไซบีเรีย และเกิดจากการผสมพันธุ์กันเอง


          ทั้งนี้ การเคลื่อนย้ายพบว่า เสือมีสุขภาพไม่ค่อยดี ทำให้เสือมีภาวะเครียดและเกิดอาการเจ็บป่วย ภาวะดังกล่าวเกิดขึ้นจากความบกพร่องทางพันธุกรรมที่เสือผสมพันธุ์ในครอบครัวเดียวกัน หรือภาวะเลือดชิด จึงทำให้เสือไม่มีภูมิคุ้มกันโรค ทั้งอาการอัมพาตลิ้นกล่องเสียง หายใจลำบาก ไม่กินอาหาร และมีอาการชักเกร็ง รวมถึงพบการติดเชื้อไวรัสไข้หัดสุนัข ซึ่งเป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่ไม่มียารักษา จึงเป็นเหตุให้เสือโคร่งของกลางทยอยตายตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2560 ปัจจุบันรวมจำนวนทั้งสิ้น 86 ตัว

           สำหรับเสือโคร่งของกลาง ยังคงเหลืออยู่ทั้ง 2 สถานี รวมแล้ว  61 ตัว ซึ่งกรมอุทยานฯ ได้กำหนดมาตรการดูแลสุขภาพเสือโคร่งเพื่อลดอาการป่วย ตาย โดยคัดกรองอาการเสือโคร่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มปกติไม่แสดงอาการ กลุ่มเริ่มแสดงอาการเล็กน้อย และกลุ่มแสดงอาการปานกลางถึงรุนแรง เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจติดตามรักษาอาการ โดยให้มีสัตวแพทย์ปฏิบัติงานเพื่อติดตามดูแลรักษาทุกสัปดาห์


           ส่วนการจัดการซากเสือโคร่ง ได้จัดเก็บเพื่อการรักษาด้วยการนำซากใส่ถังพลาสติก แช่น้ำยาฟอร์มาลิน แล้วขุดดินโรยปูนขาว ฝังลึก 3 เมตร พร้อมเขียนประวัติของเสือโคร่งแต่ละตัวระบุไว้อย่างชัดเจน ไม่มีการแยกชิ้นส่วนที่มีมูลค่า เช่น หนังเสือ หรือเขี้ยวเสือ ทุกชิ้นส่วนยังอยู่ในตัวเสือครบถ้วน และมีการถ่ายภาพเก็บบันทึกข้อมูลถูกต้องครบถ้วน

           ขณะที่ อมรินทร์ ทีวี รายงานเพิ่มเติมว่า พระวิสุทธิสารเถร หรือ หลวงตาจันทร์ เจ้าอาวาสวัดป่าหลวงตาบัว เผยว่า ที่จริงการให้เสือของกลางอยู่ที่วัดนี้ก็ดีอยู่แล้ว มาเอาไปก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ได้แต่สมเพชที่เสือตาย 86 ตัว มองว่าเป็นเวรกรรมของสัตว์ แต่สงสัยว่าที่เสือตายเยอะขนาดนี้ คนเลี้ยงขี้เกียจ ดูแลไม่ดี จนเสือป่วยและแพร่โรคให้ตัวอื่นหรือไม่ รวมทั้งอยากให้สืบว่าซากเสือ ทั้งกระดูก เขี้ยว เล็บ ถูกถอดนำไปขายหรือไม่


             หลวงตาจันทร์ ยังได้ฝากไปถึง นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้วยว่า หากกรมอุทยานฯ เลี้ยงเสือของกลางเหล่านี้ไม่ไหว อยากให้เอาลูกเสือที่เกิดใหม่มาให้ทางวัดเลี้ยงดู จะดูแลอย่างเต็มที่ ไม่ต้องมาเจ็บป่วยล้มตายเป็นจำนวนมากแบบนี้ รวมถึงเพื่อส่งเสริมให้การท่องเที่ยวของ จ.กาญจนบุรี คึกคักอีกครั้ง
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
กรมอุทยานฯ แจงเสือตาย 86 ตัว เพราะหัดสุนัข - หลวงตาจันทร์ สมเพช เลี้ยงไม่ไหวให้ส่งคืน อัปเดตล่าสุด 16 กันยายน 2562 เวลา 21:50:34 19,121 อ่าน
TOP