#saveแหม่มโพธิ์ดํา ขึ้นเทรนด์อันดับ 1 บนทวิตเตอร์ โซเชียลเดือด ทำไมตำรวจต้องตามจับพลเมืองดีแจ้งเบาะแสแก๊งกักตุน หน้ากากอนามัย
![#saveแหม่มโพธิ์ดํา]( "#saveแหม่มโพธิ์ดํา")
![#saveแหม่มโพธิ์ดํา]( "#saveแหม่มโพธิ์ดํา")
จากกรณีที่ พล.ต.ท. ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายกักตุนหน้ากากอนามัย ช่วงหนึ่งได้กล่าวถึงกรณี นายบอย ศรสุวีร์ ซึ่งถูกเพจ แหม่มโพธิ์ดำ ออกมาแฉคลิปการกักตุนหน้ากากอนามัยจำนวนมาก โดยตำรวจจะตามจับกุม เพจ แหม่มโพธิ์ดำ ข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ นั้น
อ่านข่าว : แหม่มโพธิ์ดำ งานเข้า ! เจอคดี พ.ร.บ.คอมฯ หลังแฉเครือข่ายกักตุนหน้ากากอนามัย
![#saveแหม่มโพธิ์ดํา]( "#saveแหม่มโพธิ์ดํา")
ภายหลังการแถลงของตำรวจที่จะดำเนินคดี แหม่มโพธิ์ดำ ปรากฏว่าในโลกออนไลน์ได้มีการติด #saveแหม่มโพธิ์ดํา จนขึ้นอันดับ 1 บนทวิตเตอร์ โดยหลายคนต่างไม่เข้าใจว่าทำไมตำรวจจึงต้องมาไล่เอาผิด แหม่มโพธิ์ดำ ที่ออกมาตีแผ่ขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัย จนนำไปสู่การตรวจสอบเป็นวงกว้าง ซึ่งกรณีนี้เพจดังกล่าวถือว่าเป็นพลเมืองดี ที่ควรจะต้องปกป้องใช่หรือไม่
ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามกลับไปอีกว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวที่ พ.ต.ท. กฤช เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา รอง ผกก.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. ให้สัมภาษณ์สื่อว่า ตำรวจเชื่อในคำให้การของ นายบอย ศรสุวีร์ (การไม่ได้มีหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้นตามที่กล่าวอ้าง) เพราะดูแล้วเขาซื่อ ๆ นั่งร้องไห้ทั้งคืน แต่ แหม่มโพธิ์ดำ เอาคลิปจากเฟซบุ๊กที่ บอย ศรสุวีร์ ลงเองมาแฉ ทำไมกลับถูกข้อหานำเข้าข้อมูลเท็จ
อ่านข่าว : บอย กักตุนหน้ากาก จุดอ่อนโดนทำลาย นั่งร้องไห้ทั้งคืน-ตำรวจเชื่อ ไม่มีของจริง ๆ
ทั้งนี้ หลายความคิดเห็นรู้สึกผิดหวังที่พลเมืองดีที่แจ้งเบาะแส รวมทั้งยังช่วยระดมซื้อหน้ากากอนามัยบริจาคให้โรงพยาบาลจำนวนมาก กลับได้รับการตอบแทนเป็นหมายศาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นกับกระบวนการยุติธรรมหรือไม่
![#saveแหม่มโพธิ์ดํา]( "#saveแหม่มโพธิ์ดํา")
![#saveแหม่มโพธิ์ดํา]( "#saveแหม่มโพธิ์ดํา")
![#saveแหม่มโพธิ์ดํา]( "#saveแหม่มโพธิ์ดํา")
![#saveแหม่มโพธิ์ดํา]( "#saveแหม่มโพธิ์ดํา")
![#saveแหม่มโพธิ์ดํา]( "#saveแหม่มโพธิ์ดํา")
![#saveแหม่มโพธิ์ดํา]( "#saveแหม่มโพธิ์ดํา")
![#saveแหม่มโพธิ์ดํา]( "#saveแหม่มโพธิ์ดํา")
![#saveแหม่มโพธิ์ดํา]( "#saveแหม่มโพธิ์ดํา")
![#saveแหม่มโพธิ์ดํา]( "#saveแหม่มโพธิ์ดํา")
![#saveแหม่มโพธิ์ดํา]( "#saveแหม่มโพธิ์ดํา")
![#saveแหม่มโพธิ์ดํา]( "#saveแหม่มโพธิ์ดํา")
![#saveแหม่มโพธิ์ดํา]( "#saveแหม่มโพธิ์ดํา")
จากกรณีที่ พล.ต.ท. ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายกักตุนหน้ากากอนามัย ช่วงหนึ่งได้กล่าวถึงกรณี นายบอย ศรสุวีร์ ซึ่งถูกเพจ แหม่มโพธิ์ดำ ออกมาแฉคลิปการกักตุนหน้ากากอนามัยจำนวนมาก โดยตำรวจจะตามจับกุม เพจ แหม่มโพธิ์ดำ ข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ นั้น
อ่านข่าว : แหม่มโพธิ์ดำ งานเข้า ! เจอคดี พ.ร.บ.คอมฯ หลังแฉเครือข่ายกักตุนหน้ากากอนามัย
ภายหลังการแถลงของตำรวจที่จะดำเนินคดี แหม่มโพธิ์ดำ ปรากฏว่าในโลกออนไลน์ได้มีการติด #saveแหม่มโพธิ์ดํา จนขึ้นอันดับ 1 บนทวิตเตอร์ โดยหลายคนต่างไม่เข้าใจว่าทำไมตำรวจจึงต้องมาไล่เอาผิด แหม่มโพธิ์ดำ ที่ออกมาตีแผ่ขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัย จนนำไปสู่การตรวจสอบเป็นวงกว้าง ซึ่งกรณีนี้เพจดังกล่าวถือว่าเป็นพลเมืองดี ที่ควรจะต้องปกป้องใช่หรือไม่
ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามกลับไปอีกว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวที่ พ.ต.ท. กฤช เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา รอง ผกก.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. ให้สัมภาษณ์สื่อว่า ตำรวจเชื่อในคำให้การของ นายบอย ศรสุวีร์ (การไม่ได้มีหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้นตามที่กล่าวอ้าง) เพราะดูแล้วเขาซื่อ ๆ นั่งร้องไห้ทั้งคืน แต่ แหม่มโพธิ์ดำ เอาคลิปจากเฟซบุ๊กที่ บอย ศรสุวีร์ ลงเองมาแฉ ทำไมกลับถูกข้อหานำเข้าข้อมูลเท็จ
อ่านข่าว : บอย กักตุนหน้ากาก จุดอ่อนโดนทำลาย นั่งร้องไห้ทั้งคืน-ตำรวจเชื่อ ไม่มีของจริง ๆ
ทั้งนี้ หลายความคิดเห็นรู้สึกผิดหวังที่พลเมืองดีที่แจ้งเบาะแส รวมทั้งยังช่วยระดมซื้อหน้ากากอนามัยบริจาคให้โรงพยาบาลจำนวนมาก กลับได้รับการตอบแทนเป็นหมายศาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นกับกระบวนการยุติธรรมหรือไม่
