เอแบคโพลล์ เผยผลสำรวจพบฐานสนับสนุนของสาธารณชนต่อนายกรัฐมนตรีลดลง โดยส่วนใหญ่อึดอัดกับพฤติกรรมนักการเมืองขณะนี้ และคิดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะนำไปสู่การใช้ความรุนแรงในบ้านเมือง
ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจเรื่องสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบันในสายตาสาธารณชน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวนทั้งสิ้น 2,008 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 20-21 พฤษภาคม 2551 พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 87.8 รู้สึกอึดอัดกับพฤติกรรมนักการเมืองขณะนี้ ร้อยละ 61.5 คิดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะนำไปสู่การใช้ความรุนแรงในบ้านเมือง ร้อยละ 60.6 คิดว่าอาจเกิดปฏิวัติ รัฐประหาร ร้อยละ 59.9 คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงไม่คาดฝันในกรุงเทพฯ ร้อยละ 52.1 คิดว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังคงรักสามัคคีกัน
ดร.นพดล กล่าวอีกว่า เมื่อถามถึงความรู้สึกต่อพรรคการเมืองที่เคยเลือกในเรื่องแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกผิดหวัง โดย 3 อันดับแรกที่ประชาชนเห็นว่าหากมีการปรับคณะรัฐมนตรี ควรปรับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตามผลสำรวจยังชี้ว่าฐานสนับสนุนของสาธารณชนที่ถูกศึกษาต่อนายสมัคร กำลังลดลงอย่างมากจากร้อยละ 45.4 ในเดือนกุมภาพันธ์ เหลือร้อยละ 21.4 ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งถือป็นสัญญาณที่อันตรายต่อเสถียรภาพของรัฐบาล นายกรัฐมนตรีจำเป็นต้องเร่งตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อป้องกันปัญหาความขัดแย้งบานปลาย ทางออกที่ดีที่สุดของประเทศไทยในสายตาประชาชนยังอยู่ในกรอบของการปกครองแบบประชาธิปไตย เช่น การปรับคณะรัฐมนตรี การยุบสภาเลือกตั้งใหม่ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวิถีทางประชาธิปไตย รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเร่งกอบกู้สถานการณ์การเมืองโดยด่วน
ข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
