x close

คนร้ายย่องทุบ สโตนเฮนจ์ มรดกโลกจนเสียหาย

สโตนเฮนจ์



         สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานวานนี้ (22 พ.ค.) ว่า เกิดเหตุคนร้ายใช้ค้อนและไขควงทุบทำลาย "สโตนเฮนจ์" ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในมรดกโลก จนได้รับความเสียหายเมื่อกลางดึกคืนหนึ่งของสัปดาห์ที่ผ่านมา

         อิงลิช เฮอริเทจ หน่วยงานอนุรักษ์มรดกโลกของอังกฤษ เปิดเผยว่า คนร้ายเป็นชาย 2 คนได้แอบเข้าไปทุบทำลายสโตนเฮนจ์ กองหินยุคกลางขนาดใหญ่อายุเก่าแก่กว่า 5,000 ปีซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ให้เป็นมรดกโลก คาดว่าคนร้ายต้องการเก็บชิ้นส่วนของสโตนเฮนจ์ไว้เป็นที่ระลึก ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่พบรอยขูดเป็นทางยาวประมาณ 6.5 ซม. ที่ฮิลสโตน นอกจากนี้ ชิ้นส่วนขนาดเท่าเหรียญขนาดใหญ่ถูกขโมยไป

         สโตนเฮนจ์ เป็นหนึ่งในโบราณสถานยุคก่อนประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ใกล้กับซาลิสเบอรีในวิลท์เชียร์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ แต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวชมมากถึง 850,000 คน


เกร็ดความรู้เกี่ยวสโตนเฮนจ์ (Stonehenge)

เรียบเรียงโดยกระปุกดอทคอม

        สโตนเฮนจ์ คือกองหินประหลาดที่ตั้งอยู่กลางทุ่งนาแห่งเมืองซัลลิสเบอรี่ ที่อยู่ห่างจากกรุงลอนดอนประมาณ 10 ไมล์ ประกอบด้วยแนวหินขนาดมหึมารเรียงรายกันเป็นระยะทางราวๆ 3 กิโลเมตร

         มีกลุ่มหินใหญ่ประมาณ 112 ก้อน ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งนาเป็นรูปวงกลมซ้อนกันอยู่ 3 วง บางก้อนก็วางนอน บางก้อนก็ตั้งตรง และบางก้อนก็วางซ้อนทับอยู่บนก้อนหิน โดยวงกลมรอบนอกมีเส้นผ่านศูนย์กลางยาว 100 ฟุต มีหินทั้งหมด 30 ก้อน แต่ละก้อนสูง 13 ฟุต วงกลมรอบกลางมีเส้นผ่านศูนย์กลางยาว 76 ฟุต มีหินทั้งหมด 40 ก้อน มีสองก้อนที่สูงถึง 22 ฟุต ส่วนวงในสุด มีเส้นผ่านศูนย์กลางยาว 50 ฟุต มีหินทั้งหมด 42 ก้อน บ้างล้มบ้างก็ตั้งอยู่ ซึ่งหินแต่ละก้อนล้วนมีน้ำหนักเป็นตันทั้งนั้น

         ว่ากันว่ากองหินเหล่านี้มีมาตั้งแต่ก่อนคริสตกาลถึง 1,700 ปี โดยที่ไม่มีร่องรอยของความเป็นมาว่าใครเป็นคนสร้างหรือสร้างเพื่อวัตถุประสงค์ใด และที่น่าแปลกก็คือบริเวณดังกล่าวกลับเป็นทุ่งกว้างที่ไม่มีภูเขาหรือสิ่งก่อสร้างด้วยหินอื่นเลย จึงทำให้เกิดความสงสัยว่านำก้อนหินเหล่านั้นมาจากไหน และใช้อะไรยกก้อนหินที่มีน้ำหนักเป็นตันขึ้นไปวางซ้อนกันได้

         จึงมีผู้สันนิษฐานว่ามันถูกสร้างขึ้นโดยผู้ที่มีความรู้ด้านดาราศาสตร์เป็นอย่างสูง ก็เพื่อใช้เป็นหอสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ ที่สามารถบอกวันเดือนปีแทนปฏิทินได้ ซึ่งได้จัดวางก้อนหินแต่ละก้อนให้มีช่องว่างที่เหมาะสมเพื่อพยากรณ์และคำนวณวิถีโคจรของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวดวงอื่นๆ ที่มีความสำคัญ จนสามารถบอกวันแรกของแต่ละฤดูกาล หรือใช้คำนวณสุริยคราส จันทรคราส ได้อย่างแม่นยำ

         จนรัฐบาลอังกฤษได้เปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในปี ค.ศ. 1918 ซึ่งทำให้มีผู้ไปเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก และก็จัดอยู่ในสิ่งมหัศจรรย์ 1 ใน 7 ของโลกยุคกลางอีกด้วย




ข้อมูลและภาพประกอบจาก



ข้อมูลเพิ่มเติมจาก

- thaigoodview.com
- wonder7th.com
- board.dserver.org

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
คนร้ายย่องทุบ สโตนเฮนจ์ มรดกโลกจนเสียหาย โพสต์เมื่อ 23 พฤษภาคม 2551 เวลา 12:05:19 2,316 อ่าน
TOP