สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
กว่าสามวันแล้วที่ฝ่ายพันธมิตรฯ ยังคงตรึงกำลังปักหลักยึดถนนหลวง ชุมนุมอยู่ที่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยบรรดาแกนนำพันธมิตรฯ ต่างขึ้นเวทีกล่าวปลุกใจ ให้ม็อบเกาะกลุ่มเหนียวแน่นไม่ให้กระจัดกระจายไปไหน
สำหรับบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ในช่วงกลางดึกของวันที่ 27 พ.ค. ต่อเนื่องจนถึงรุ่งเช้าวันที่ 28 พ.ค. หลังจากแกนนำพันธมิตรฯประกาศว่า จะมีฝ่ายต่อต้าน 400 คน บุกเข้ามาก่อกวนในที่ชุมนุม โดยขอร้องให้ผู้ชุมนุมอยู่ต่อไปจนถึงเช้าเพื่อรักษาฐานที่มั่น เหตุดังกล่าวส่งผลให้มีประชาชนราว 500 คน ตัดสินใจร่วมหัวจมท้ายกับกลุ่มพันธมิตรฯ ต่อ โดยมีกิจกรรมบนเวทีคอยปลุกเร้า อาทิ ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง นักแสดงคนดังที่หันมาฝักใฝ่การเมือง และหงา คาราวาน ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต ขึ้นมาร้องเพลงสลับกับการปราศรัยของแกนนำ เป็นที่น่าสังเกตว่าตลอด 3 วันของการชุมนุมพันธมิตรฯทั้งกิจกรรมตลอดจนผู้ปราศรัยพันธมิตรฯลดน้อยลง แตกต่างจากการชุมนุมใหญ่เมื่อปี 2549
ในส่วนที่ม็อบทำการปิดถนนบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ซึ่งบริเวณนั้นมีหน่วยงานราชการและโรงเรียนหลายแห่งตั้งอยู่ ทำให้ข้าราชการและนักเรียนรวมทั้งผู้ที่มาติดต่อราชการได้รับความเดือดร้อน เพราะต้องเดินทางอ้อมไปอ้อมมา เป็นการเสียเวลาโดยใช่เหตุนั้น ขณะที่โรงเรียนวัดมกุฏกษัตริย์ถึงกับต้องประกาศปิดโรงเรียนในวันที่ 27 พ.ค. เพราะเกรงเกิดเหตุรุนแรงและนักเรียนจะได้รับอันตรายนั้น
ขณะที่เมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมสภากลาโหม โดยมี พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.ทหารสูงสุด พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร. พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ.เข้าประชุม ขาดเพียง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ที่ติดภารกิจต้องไปเยี่ยมอาการมารดาที่นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ จึงไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้
ภายหลังการประชุม นายสมัครปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ โดยกล่าวสั้นๆพร้อมชี้นิ้วขึ้นบนท้องฟ้าว่า "ฝนตกๆ" เมื่อถามย้ำว่ามั่นใจหรือไม่ว่า ทหารจะไม่ออกมาเคลื่อนไหวในเวลานี้ นายสมัครกล่าวพร้อมกับหัวเราะว่า "ให้ถามทหารดู" จากนั้นนายกฯได้ขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับ
หลังจากการประชุมสภากลาโหม ผบ.เหล่าทัพได้เข้าร่วมประชุมนอกรอบร่วมกับ พล.อ.วินัย ที่ห้องภายในสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งได้มีการหารือถึงสถานการณ์การเมือง กรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯออกมาเคลื่อนไหว พร้อมได้วางแผนป้องปราม หากสถานการณ์ รุนแรงเกิดขึ้นโดยจะมีการนำ พ.ร.บ.ความมั่นคงหรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาใช้ ในกรณีที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
ด้าน พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.ทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมสภากลาโหม ว่า ผบ.เหล่าทัพมาพูดคุยและติดตามสถานการณ์กัน รวมถึงพูดคุยเรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 ไม่เกี่ยวกับเรื่องการปฏิวัติ ส่วนสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ผบ. เหล่าทัพเป็นห่วงกันทุกคน การจะรุนแรงหรือไม่รุนแรงอยู่ที่เราทั้งหมด แต่ผบ.เหล่าทัพได้ติดตามสถานการณ์ และหวังว่าจะไม่เกิดเหตุรุนแรง เพราะหากประเทศชาติวุ่นวายก็จะเกิดความสูญเสีย ทั้งนี้ในการประชุมสภากลาโหม นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ
เมื่อถามว่า ผบ.เหล่าทัพยืนยัน หรือไม่ว่ากองทัพจะไม่ปฏิวัติ พล.อ.บุญสร้างกล่าวว่า ตนยืนยันและตอบไม่ได้ เพราะถ้าใครปฏิวัติคงไม่บอก แต่เรารู้ตัวของเราเองว่าเราไม่ทำ ทั้งนี้เราไม่นิยมใช้อำนาจของตนเอง และใครจะโง่ทำปฏิวัติ เพราะถ้าทำตอนนี้ก็ยุ่งตาย สถานการณ์บ้านเมืองเราก็เห็นๆกันอยู่
พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ ให้สัมภาษณ์ภายหลัง การหารือนอกรอบ ว่าไม่ได้หารือเรื่องการปฏิวัติ แต่หารือเรื่องงบประมาณที่จะนำเข้าสภา ที่มีการหารือกันนอกรอบ เพราะผบ.เหล่าทัพไม่ค่อยได้เจอกัน และ ผบ.สส. เพิ่งกลับจากต่างประเทศ ในฐานะที่เราเกี่ยวข้องในเรื่องความมั่นคง จะต้องมีการพูดคุยบ้าง การที่พูดคุยกันไม่ใช่การวางแผนลับ ลวง พราง เมื่อถามว่า ได้หารือถึงสถานการณ์ การชุมนุมที่แบ่งเป็น 2 ฝ่าย จนอาจจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้น หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า น่าเป็นห่วง แต่นายกรัฐมนตรีระบุว่า พร้อมที่จะแก้ไขสถานการณ์ และทำอะไรต่างๆ ได้คิดว่าไม่มีปัญหาอะไร ทุกคนต้องพยายามทำให้อยู่ในกรอบกฎหมาย
เมื่อถามว่า ยังไม่ถึงเวลาที่ทหารจะออกมาใช่ หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิตกล่าวว่า ไม่ใช่เวลาอะไรทั้งสิ้น เมื่อถามว่า ต้องรอคุยกับ ผบ.ทบ.ก่อนหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ใช่ วันนี้ท่านติดธุระส่วนตัว เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีแสดงความห่วงใยต่อการชุมนุมอย่างไรบ้าง พล.อ.อ. ชลิตกล่าวว่า ท่านบอกว่าจะดูแลเอง โดยใช้ตำรวจในการ ดำเนินการซึ่งเป็นหน้าที่ปกติอยู่แล้วไม่มีอะไร
อย่างไรก็ตามรายงานข่าวจากกระทรวงกลาโหมแจ้งว่า ในที่ประชุมสภากลาโหม นายสมัคร กำชับให้ ผบ.เหล่าทัพ ติดตามสถานการณ์บ้านเมืองอย่างใกล้ชิด เพราะการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุด ตามระเบียบความสงบภายในประเทศ ถ้าจะใช้กำลังทหารไประงับเหตุความวุ่นวาย จะต้องดำเนินการไปตามระเบียบขั้นตอนทุกอย่าง ซึ่งตามระเบียบข้อบังคับ หากจะใช้กำลังทหารจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ซึ่งจะต้องเข้าที่ประชุม ครม.เพื่อพิจารณาก่อน แต่ขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องใช้ เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่ถึงจุดแตกหัก ใช้แต่กำลังตำรวจในการดูแลความสงบเรียบร้อย
นอกจากนี้ในที่ประชุมไม่ได้มีการหารือถึงกระแสข่าวที่กองทัพจะทำการปฏิวัติ และนายสมัครไม่ได้สอบถาม ผบ.เหล่าทัพ เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ยังไม่ถึงจุดแตกหัก ซึ่งการปฏิวัติจะเกิดขึ้นต่อเมื่อรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ ทหารจึงจะออกมาปฏิวัติ
ข้อมูลจาก
