วันนี้ (20มิ.ย.) พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ เปิดเผยว่า การเดินทางไปทำเนียบฯ กลุ่มพันธมิตรฯ จะไม่บุกยึด แม้ตำรวจจะเปิดทางให้เข้า เราก็จะไม่ทำอะไรทั้งสิ้น หากเขามาปิดกั้น เราจะไม่ด่า ไม่ยั่วยุ ทำให้ตำรวจโกรธ ส่วนท่อนเหล็ก ไม้เบสบอล หรือหนังสติ๊ก เราก็ไม่นำพาไปด้วย จะไปชุมนุมอย่างสงบ สันติ อสิงหา และปราศจากการใช้อาวุธ ซึ่งวันนี้มั่นใจว่าจะมีนรกป่วนกรุงมาทำให้เราเสียหาย ซึ่งใครที่ทำอย่างนั้นไม่ว่าจะแต่งกายแบบใด มีผ้าโพกหัว มีผ้าพันคอสีเหลือง คำว่า "กู้ชาติ" ก็ตาม ถือว่าไม่ใช่พันธมิตรฯ เพราะเราจะไม่ใช้ความรุนแรง ซึ่งระหว่างกลุ่มเราและกลุ่มเขาแยกกันได้ที่การปฏิบัติ
"การเดินทางไปครั้งนี้ไม่มีชื่อยุทธการอะไร แต่จะเหมือนเป็นการไปเดินการกุศล บางครั้งอาจต้องหยุดบ้าง เราก็ใจเย็นยิ้มให้ตำรวจ วันนี้พันธมิตรฯ เตรียมวางแผนต่างๆ ไว้แล้ว ไม่ว่าเราจะไปได้ใกล้ไกลแค่ไหน หรือไปในทิศทางใด ก็ถือว่าเราได้รับชัยชนะ และมีผลสำเร็จเกิดขึ้นแล้ว เพราะรัฐบาลจะต้องลาออกภายใน 1-2 วันนี้" พล.ต.จำลอง กล่าว
อย่างไรก็ตาม กรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ออกมาปูดเรื่องของ"ไอ้จ๊อก" ที่ระบุว่าพันธมิตรฯ มีการเตรียมกำลังและขนอาวุธเข้ามาป่วนกรุง พล.ต.จำลอง กล่าวว่า การที่รัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีคนใดก็ตาม ออกมาพูดแบบนี้ ถือว่าพลาดแล้ว เลยต้องเอาเรื่องนี้มาเป็นสาเหตุ ให้รัฐบาลออกพรบ.ความมั่นคงหรือประกาศพรก.ฉุกเฉิน แต่เขาทำไม่สำเร็จเ พราะไม่ได้ทำการนัดแนะผบ.ตร. เพราะผบ.ตร.ยืนยันกับสื่อแล้วว่าจะไม่มีแบบนั้นอย่างแน่นอน จึงเห็นได้ชัดว่า เป็นการปลุกกระแส เพื่อออก พรบ.ความมั่นคง ส่วนการแพร่ภาพ ว่าเรามีกระบอง มีไม้เบสบอล ยอมรับว่าเรามีจริง แต่ยังไม่ใช่อาวุธ เพราะเรายังไม่ได้เอามาใช้ ที่เรามีก็เพื่อเอามาป้องกัน จะเห็นได้จากการเคลื่อนขบวนมาสะพานมัฆวานรังสรรค์ เมื่อวันที่ 25 พ.ค. เราถูกอันธพาลตีบาดเจ็บ ตำรวจทำอะไรไม่ได้ จึงมีความจำเป็นที่เราตองมี แต่วันนี้เราจะไม่นำไปด้วยเด็ดขาด จะมีแต่พระบรมฉายาลักษณ์ ถือนำขบวนเท่านั้น
ขณะที่ นายปานเทพ พัวพงศ์พัน ทีมงานโฆษกพันธมิตรฯ อ่านแถลงการณ์ ฉบับที่ 14/2551 เรื่อง ธำรงค์ ความสงบ อสิงหา และปราศจากอาวุธ โดยบอกว่า ตามที่พันธมิตรได้ยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาปากท้อง แทนการไปมุงพยายามแก้รัฐธรรมนูญ รัฐบาลก็ไม่สนใจรับฟัง ทำให้เราต้องมาชุมนุมกันเป็นเวลา 27 วันแล้ว รัฐบาลก็ไม่แก้ปัญหาของประเทศชาติ และประชาชน ทำให้พันธมิตรจำต้องแสดงพลังยิ่งใหญ่อีกครั้งในวันนี้ ด้วยการเคลื่อนย้ายไปยังทำเนียบฯ เพื่อยืนยันในเจตนารมณ์อย่างแรงกล้า ของประชาชนในวันนี้ พันธมิตรขอย้ำในแนวทางที่ยึดมั่นอีกครั้งว่า การเคลื่อนการชุมนุมไปยังทำเนียบครั้งนี้ จะไม่เข้าไปบุกรุก ไม่เข้าไปในทำเนียบฯ แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเปิดประตูทำเนียบ พันธมิตรก็จะไม่มีเป้าประสงค์เพื่อเข้าไปในทำเนียบแต่ประการใด
นายปานเทพ อ่านแถลงการณ์ต่อว่า เนื่องจากการเดินขบวนครั้งนี้ได้มีผู้ไม่หวังดีและอันธพาลในฝ่ายรัฐบาลต้องการสร้างความวุ่นวาย และใส่ร้ายพันธมิตร ด้วยการปะปนเข้ามาในการชุมนุม แม้จะไม่มีเครื่องแบบแบ่งแยกผู้ชุมนุมได้ พันธมิตรก็พิสูจน์แล้วว่า ได้ชุมนุมโดยไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายแม้แต่ครั้งเดียว จึงถือว่าใครก็ตามที่ไม่ทำตามจุดยืนพันธมิตรถือเป็นอันธพาล นรก ป่วนกรุงในฝ่ายรัฐบาล ที่ต้องการจะก่อความวุ่นวายบ้านเมือง ด้วยการพกพาอาวุธ ด่า ยั่วยุ ตำรวจ ทำร้ายตำรวจหรือสร้างเงื่อนไขให้เกิดการทะเลาะวิวาท ให้ถือเป็นความรับผิดชอบรัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว และเรียกร้องให้ตำรวจจัดการอย่างเด็ดขาด และแม้ครั้งนี้พันธมิตรจะเคลื่อนย้าย ไม่ว่าจะเคลื่อนย้ายไปทางใด หรือไปได้ใกล้ไกลแค่ไหน ถือเป็นชัยชนะ สำหรับการชุมนุมวันนี้ที่ได้แสดงเจตนารมย์ของประชาชนอย่างหาญกล้าแล้วฃ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากราชตฤณามัยสมาคม ในพระบรมราชูปถัมภ์ แยกนางเลิ้ง ถนนนครสวนรรค์ ตัดถนนพิษณุโลก ว่า ตั้งแต่ 09.00 น. ที่ผ่านมา กลุ่มพันธมิตร 11 จังหวัดภาคใต้ ประมาณ 500 คน ซึ่งเดินทางมาโดยรถไฟ มาปักหลักชุมนุมอยู่ที่ หน้าราชตฤณามัยฯ เพื่อจะเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบ โดยขณะนี้กลุ่มผู้นำพันธมิตรของ 11 จังหวัดภาคใต้ ได้ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นกล่าวบนรถกระบะที่ติดเครื่องขยายเสียง ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ซึ่งขณะนี้กำลังตรึงหลังแผงเหล็กตลอดแนวถนนเพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มพันธมิตร เคลื่อนเข้าทำเนียบฯเปิดทางให้
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณกว่า 100 นาย ได้ตั้งแถวปิดกั้นกลุ่มพันธมิตร พร้อมโล่ห์พลาสติกด้านหลังแผงกั้น ขณะที่มีรถตำรวจซึ่งเป็นรถ 6 ล้อ ประมาณ 10 คัน กั้นเป็นแผงอยู่ ขณะที่ชาวบ้านและร้านค้าที่ตั้งอยู่ถนนนครสรรค์ ได้ปิดร้านเป็นจำนวนมาก ทำให้ถนนดังกล่าวเงียบเหงา โดยตำรวจกระจายกำลังปิดกั้นการจราจรบนถนนดังกล่าว โดยอนุญาติให้เพียงรถมอเตอร์ไซค์ และรถยนต์ของผู้ที่อยู่บริเวณดังกล่าวผ่านเข้ามา
สื่อรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า ตลอดช่วงเช้ายังมีการสลับกันขึ้นเวทีปราศรัยอย่างต่อเนื่อง เมื่อได้เวลานัดหมายในการเคลื่อนขบวน มีประชาชนทยอยเดินทางมาสมทบชุมนุมกันอย่างต่อเนื่อง โดยเวลา 09.00 น. กลุ่มพันธมิตร ได้หาอาสาสมัครหน่วยกล้าตาย 9 กลุ่ม กลุ่มละ 10 คน ซึ่งมีการ์ดของพันธมิตรได้อธิบายทำความเข้าใจ ในแผนการต่างๆ ที่กลุ่มพันธมิตรจะดำเนินการวันนี้ ระหว่างเคลื่อนขบวน ห้ามไม่ให้สื่อฯ ติดตามทำข่าวหรือถ่ายภาพ ขณะเดียวกันกองทัพมูลนิธิกองทัพธรรม ของพล.ต.จำลอง ได้เตรียมเรือไว้ 7 ลำ เพื่อนำไปใช้ในการเดินทางคลอง และเตรียมสถานที่ในการนำเรือลงคลองด้านหลังทำเนียบฯ ซึ่งจะไปขึ้นตรงสะพานชมัยมรุเชษฐ์ ด้านหน้าทำเนียบฯ
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
