เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน นายบุญชัย ศศิวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายและผู้บริหารฝ่ายบริหารโครงการภาครัฐ บมจ.ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารได้รับมอบหมายจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) ในการรับชำระหนี้ของกยศ.นั้น ในปีนี้มีผู้กู้ยืมเงินกยศ.ที่จบการศึกษาในปี 2548 และครบกำหนดต้องชำระหนี้งวดแรก จำนวน 279,796 ราย ซึ่งธนาคารได้ส่งจดหมายแจ้งยอดหนี้และจำนวนเงินที่ต้องผ่อนชำระในแต่ละงวดให้กับผู้กู้ โดยให้ชำระหนี้ได้จนถึงวันที่ 5 กรกฎาคม ณ สาขาธนาคารกว่า 780 แห่งทั่วประเทศรวมถึงสาขาย่อยตามห้างสรรพสินค้านั้น
แต่เนื่องจากวันครบกำหนดชำระหนี้ กยศ.ปีนี้ ตรงกับวันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม ดังนั้น จึงขอเลื่อนการชำระเงินกู้ถึงวันที่ 7 กรกฎาคม โดยผู้กู้ชำระหนี้ได้ 2 วิธี คือ นำเงินฝากเข้าบัญชีเพื่อรอการหักชำระหนี้โดยอัตโนมัติ หรือชำระผ่านเคาน์เตอร์สาขาธนาคาร หากผู้กู้ที่ครบกำหนดชำระหนี้ ยังไม่ได้รับแจ้งยอดเงินที่ต้องชำระหรือเปลี่ยนที่อยู่ใหม่โดยไม่ได้แจ้งธนาคาร สามารถตรวจสอบ สอบถามยอดหนี้ได้ที่ http://studentloan.ktb.co.th/ อีเมล์ gsl@ktb.co.th กรุงไทยโฟน 1551 หรือ Help Desk หมายเลข 0-2208-8699 และสาขาธนาคารทั่วประเทศ
สำหรับผู้กู้ที่ครบกำหนดชำระหนี้รุ่นก่อนหน้านี้ซึ่งมีประมาณ 1.75 ล้านราย นั้น สามารถชำระหนี้ตามจำนวนเงินที่ได้รับแจ้งจากธนาคาร โดยชำระภายในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้เช่นกัน หากผู้กู้ไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ ไม่ว่า สาเหตุใดก็ตาม ขอให้ติดต่อธนาคารเพื่อขอผ่อนผันการชำระหนี้ หากไม่ชำระคืนหนี้ภายในเวลาที่กำหนด ต้องเสียค่าปรับในกรณีค้างชำระไม่เกิน 12 เดือนในอัตรา 12% และเสียค่าปรับกรณีค้างชำระเกิน 12 เดือนในอัตรา 18% และหากค้างชำระติดต่อกันเป็นระยะเวลา 4 งวด จะต้องถูกดำเนินการฟ้องร้องต่อไป
นายบุญชัย กล่าวด้วยว่า สำหรับตัวเลขผู้กู้ กยศ. ผ่านระบบ E-studentloan นั้น ข้อมูล ณ วันที่ 26 มิถุนายน มีผู้กู้ กยศ.ทั้งรายเก่าและใหม่ มายื่นกู้ทั้งสิ้น 253,838 ราย ตนไม่แน่ใจว่า กยศ.ตั้งเป้าหมายว่า จะมีผู้กู้กยศ.ปีนี้เท่าไหร่ แต่ขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ต้องการกู้เร่งมายื่นกู้ผ่านระบบออนไลน์เพราะจะหมดเขตในวันที่ 30 มิถุนายนนี้แล้ว สำหรับผู้กู้ที่สถานศึกษาส่งเอกสารมาอย่างถูกต้องครบถ้วน ธนาคารได้จัดสรรเงินค่าครองชีพไปให้แล้วตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนสถานศึกษา ที่จะต้องได้รับการจัดสรรเงินค่าเล่าเรียนนั้น ปรากฏว่ามีสถานศึกษาจำนวนมากที่ส่งเอกสารมาอย่างไม่ถูกต้องครบถ้วน ธนาคารจึงได้ส่งกลับคืนไปแก้ไข หากส่งแก้กลับมาอย่างถูกต้องควบถ้วน ธนาคารจะจัดสรรเงินไปให้ภายใน 30 วัน
ข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
